Page 52 - แผนพัฒนาจังหวัดสุราษฎร์ธานีระยะ 20 ปี
P. 52
เศรษฐกิจจะเป็นอย่างไร ประกอบกับข่าวเศรษฐกิจทั้งในและต่างประเทศที่บ่งชี้ว่าหุ้นตก เศรษฐกิจโลกถดถอย
ส่งผลให้ประชาชนที่มีกําลังซื้อไม่กล้าใช้เงิน และเมื่อไม่มีการใช้จ่าย“เศรษฐกิจจะกินตัวเองไปเรื่อยๆ”ชีพจร
เศรษฐกิจจะแผ่วลง ดัชนีราคาผู้บริโภค (เงินเฟ้อ) ก็จะลดลงตามไปด้วย
ในช่วงเวลานี้จึงเป็น “Moment of Truth” (เวลาที่ความจริงปรากฏออกมา) ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่ต้องเร่งสร้าง
สิ่งใหม่ แก้ปัญหาเก่า เพื่อสร้างอนาคตประเทศ โดยปัญหาหลักที่แท้จริงคือ “ความสามารถของประเทศไทย
ถดถอย” ส่งผลทําให้ประเทศอ่อนแอ ที่ผ่านมาระบบเศรษฐกิจของประเทศไทยพึ่งพิงการส่งออกมากถึง 60% ของ
GDP ดังนั้นเมื่อเศรษฐกิจโลกชะลอตัวจึงกระทบต่อการส่งออกโดยตรง ทั้งนี้ ประเทศไทยต้องยอมรับความจริงว่า
เป็นไปได้ยากมากที่จะมีประเทศใดที่มีอัตราการเติบโตเศรษฐกิจโลก 5-6 % ได้อีกต่อไป เช่นนั้นแล้วจึงต้องหันมาให้
ความสําคัญกับเศรษฐกิจภายในประเทศให้มากขึ้น ซึ่งนํามาสู่ภารกิจสําคัญ ได้แก่
- ภารกิจเร่งด่วน คือ มาตรการการช่วยเหลือกลุ่มผู้มีรายได้น้อย เกษตรกร และกลุ่มวิสาหกิจขนาด
กลางและขนาดย่อม ซึ่งทางรัฐบาลได้มอบหมายให้กระทรวงการคลัง สํานักงบประมาณ และทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง
ช่วยกันคิดหามาตรการเร่งด่วนที่จะไปช่วยบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชน และทําให้เงินทุนหมุนเวียนของรัฐ
ลงเข้าไปในเศรษฐกิจให้เร็วที่สุด ซึ่งมาตรการดังกล่าวนั้นแบ่งออกเป็น 2 ส่วน คือ 1) การใช้กลไกทําให้เงินลงไปถึง
ประชาชนให้เร็วที่สุดโดยไม่ต้องผ่านกลไกอื่น ซึ่งจะช่วยให้เกิดการหมุนเวียนในระยะเวลาที่ยืนยาว และ 2) การ
สร้างความเข้มแข็งให้กับท้องถิ่น ตามแนวพระราชดําริของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เรื่องเศรษฐกิจพอเพียง
โดยให้เร่งรัดเบิกงบประมาณในโครงการขนาดเล็กมูลค่าไม่สูงให้ออกมาเร็วที่สุดภายใน 2-3 เดือน
- ภารกิจการวางรากฐานอนาคตให้กับประเทศ ซึ่งเป็นสิ่งสําคัญมากในสถานการณ์ปัจจุบันโดย
ต้องขจัดอุปสรรคที่ไม่จําเป็นต่อการค้า เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพให้กับการทํางานของภาคเอกชน ทั้งนี้ประเทศไทย
ยังมีหลายปัจจัยที่เป็นอุปสรรค จากสภาพเศรษฐกิจในปัจจุบันสะท้อนให้เห็นว่า เศรษฐกิจภายในประเทศไม่
แข็งแรง เพราะในอดีตการเติบโตทางเศรษฐกิจนําโดยการส่งออก มาตรการทางภาษี BOI และโครงสร้างพื้นฐาน
ทุ่มเทให้กับการส่งออกเป็นสําคัญ เช่นนั้นแล้วจําเป็นต้องดําเนินแนวทางแก้ปัญหาและสร้างความเข้มแข็งให้กับ
ประเทศโดย
การเติบโตจากภายใน (Strength From Within) เศรษฐกิจไทยควรจะมีความสมดุล ไม่ใช่พึ่งพิงตลาดโลก
ภายนอก ในช่วงที่เศรษฐกิจภายนอกไม่ดีเป็นโอกาสที่จะสร้างความเข้มแข็งภายในประเทศ ทั้งในท้องถิ่นและ
ภูมิภาค ใช้ปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงเป็นตัวนําร่อง แล้วนําเอากิจกรรมทางเศรษฐกิจทั้งหลายไปรวมกัน ยกตัวอย่าง
เช่น หมู่บ้าน ตําบล อําเภอ หรือ จังหวัด จะต้องเป็นศูนย์กลางในการพัฒนาเศรษฐกิจ ต้องฟื้นกองทุนหมู่บ้าน
พัฒนาวิสาหกิจชุมชนและสินค้า OTOP เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจท้องถิ่น โดยเชื่อมโยงกับ การท่องเที่ยวในจังหวัด ใน
ขณะเดียวกันก็จะต้องมีสิ่งจูงใจส่งเสริมให้เกิดการลงทุนในท้องถิ่น อาทิ การปล่อยกู้ผู้มีรายได้น้อย ดอกเบี้ย 0%
เป็นเวลา 2 ปี และยืดเวลาการชําระหนี้ออกไปจากเดิม 5 ปี เป็น 7 ปี เป็นต้น
การเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน โดยการรวมกลุ่มวิสาหกิจ หรือการสร้าง Cluster
สร้างโซนขึ้นมาคลุมในหลายจังหวัด และดึงกลุ่มผู้ประกอบการทั้งในและต่างประเทศเข้ามาในพื้นที่ ทั้งนี้ในการ
ยกระดับมูลค่าขึ้นมาต้องอาศัยเทคโนโลยีและความรู้ทางด้านวิชาการมารองรับ จึงมีความจําเป็นต้องสถาบันทาง
การศึกษาเข้ามามีส่วนร่วม อีกทั้งยังเป็นการสร้างบุคลากรเพื่อรองรับการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจในอนาคต ทว่า
สิ่งสําคัญคือ การเชื่อมต่อระหว่างอุตสาหกรรมกับเศรษฐกิจท้องถิ่น มิใช่ให้ความสําคัญกับผู้ประกอบการรายใหญ่
แต่เพียงอย่างเดียว ต้องสร้างความเข้มแข็งให้กับเศรษฐกิจชุมชน ลดการไหลเข้าสู่ตัวเมืองของนักศึกษาจบใหม่ ถ้า
แผนพัฒนาจังหวัดสุราษฎร์ธานี ระยะ 20 ปี (พ.ศ.2560-2579) หน้า 49