Page 83 - surat61
P. 83
71
และพบหินยุคเทอร์เชียรี พื้นที่ด้านตะวันออกบริเวณอุทยานแห่งชาติใต้ร่มเย็นเป็นภูเขาหินแกรนิต และพบหินปูนยุค
เพอร์เมียนกระจายอยู่ทั่วไปเป็นบริเวณกว้าง เกาะสมุย เกาะพะงันและเกาะเต่าเป็นหินแกรนิต กลุ่มเกาะอ่างทองเป็น
หินปูนยุคเพอร์เมียน ตามที่ราบลุ่มน้ําท่วมถึงและที่ราบชายฝั่งมีการทับถมของตะกอนยุคปัจจุบัน ธรณีวิทยาโครงสร้างมี
กลุ่มรอยเลื่อนคลองมะรุ่ยที่เป็นรอยเลื่อนมีพลังและมีโอกาสเคลื่อนตัวอีกครั้งพาดผ่านในแนวตะวันออกเฉียงเหนือ-
ตะวันตกเฉียงใต้
ทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง
การกัดเซาะชายฝั่ง
สถานการณ์
จังหวัดสุราษฎร์ธานี เป็นจังหวัดที่มีพื้นที่ที่ติดกับทะเลอ่าวไทยตอนกลาง มีพื้นที่ความยาวของชายฝั่ง
ทะเลรวม 166.40 กิโลเมตร พื้นที่ส่วนใหญ่มีลักษณะเป็นหาดทรายมีคลื่นสูง ณ ชายฝั่งพื้นที่บกเฉลี่ย 1 เมตร สูงสุด
1.92 เมตร และบนเกาะ มีคลื่นสูงเฉลี่ย 0.73 เมตร สูงสุด 2.36 เมตร โดยมีลักษณะทางกายภาพของชายฝั่งดังนี้
ลักษณะทางกายภาพของชายฝั่งจังหวัดสุราษฎร์ธานี
ลักษณะทางกายภาพของชายฝั่ง
รายการ หาดโคลนหรือ พื้นที่ ความยาว
หาดทราย % % หาดหิน % อื่นๆ รวม (กม.)
เลน
ชายฝั่งทะเลด้านอ่าวไทย (17 1,162.90 100 626.90 100 239.50 100 25.90 2,055.20
จังหวัด)
จังหวัดสุราษฎร์ธานี 51.40 31 107.30 64 7.7 5 - 166.40
ที่มา : กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง, 2560 (ข้อมูลปรับปรุงจากปี 2554)
การกัดเซาะชายฝั่งทะเลด้านอ่าวไทย ตั้งแต่ภาคตะวันออก อ่าวไทยตอนบน และภายใต้ฝั่งอ่าวไทยจะ
เกิดขึ้นในทุกจังหวัดบริเวณพื้นที่ราบน้ําขึ้นถึงบริเวณป่าชายเลน บริเวณหาดทรายส่วนใหญ่จะเกิดขึ้นในพื้นที่แหล่ง
ท่องเที่ยวเขตอุตสาหกรรม และที่อยู่อาศัย จากการสํารวจพบว่าการกัดเซาะชายฝั่งทะเลอ่าวไทย พื้นที่ที่มีอัตราการกัด
เซาะรุนแรงเฉลี่ยมากกว่า 5 เมตร เกิดขึ้นใน 12 จังหวัด ได้แก่ จันทบุรี ฉะเชิงเทรา สมุทรปราการ สมุทรสาคร
เพชรบุรี ประจวบคีรีขันธ์ สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช สงขลา ปัตตานี และนราธิวาส และพื้นที่ที่มีอัตราการกัดเซาะ
ปานกลางเฉลี่ย 1-5 เมตรต่อปี มี 16 จังหวัด ได้แก่ ตราด จันทบุรี ระยอง ชลบุรี ฉะเชิงเทรา สมุทรปราการ
สมุทรสาคร สมุทรสงคราม เพชรบุรี ประจวบคีรีขันธ์ ชุมพร สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช สงขลา ปัตตานี และ
นราธิวาส ทั้งนี้ชายฝั่งทะเลบริเวณอ่าวไทยตอนบนตั้งแต่ปากแม่น้ําบางปะกง จังหวัดฉะเชิงเทรา จนถึงปากแม่น้ําท่าจีน
จังหวัดสมุทรสาคร เป็นพื้นที่ที่มีความอ่อนไหวและ มีการกัดเซาะขั้นรุนแรงมากที่สุด
ข้อมูลจากผลการศึกษาโครงการศึกษาแผนแม่บทการแก้ไขปัญหาการกัดเซาะชายฝั่ง ตั้งแต่ปากแม่น้ํา
เพชรบุรี จังหวัดเพชรบุรี ถึงปากแม่น้ําปราณบุรี จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ในปี 2546 ระบุว่า จังหวัดประจวบคีรีขันธ์มี
พื้นที่ที่มีการกัดเซาะจํานวน 1 อําเภอ คือ หัวหิน รวมระยะทางการกัดเซาะ 42 กิโลเมตร ต่อมาในปี พ.ศ.2551
พบว่าจังหวัดชุมพร มีพื้นที่ที่มีการกัดเซาะจํานวน 5 อําเภอ คือ อําเภอเมือง ปะทิว สวี หลังสวน และละแม รวม
ระยะทางการกัดเซาะ 16.80 กิโลเมตร และจังหวัดสุราษฎร์ธานี มีพื้นที่ที่มีการกัดเซาะจํานวน 3 อําเภอ คือ อําเภอไช
ยา ดอนสัก และท่าชนะ รวมระยะทางการกัดเซาะ 23.5 กิโลเมตร