Accessibility Tools

A A A

facebook  youtube

จังหวัดสุราษฎร์ธานีจัดพิธีมอบวุฒิบัตรและลาสิกขาบทโครงการบรรพชาสามเณรภาคฤดูร้อน เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ

 

วันที่ 6 พฤษภาคม 2567 เวลา 09.30 น. ณ วัดสามัคคีผดุงพันธ์ ตำบลมะขามเตี้ย อำเภอเมือง จังหวัดสุราษฎร์ธานี จัดพิธีมอบวุฒิบัตรและลาสิกขาบทโครงการบรรพชาสามเณรภาคฤดูร้อนเฉลิมพระเกียรติ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 28 กรกฎาคม 2567 โดยมีนายนันธวัช เจริญวรรณ รองผู้ว่าราชจังหวัดสุราษฎร์ธานี เป็นประธานฝ่ายฆราวาส พร้อมด้วยหัวหน้าส่วนราชการ ผู้ปกครอง และพุทธศาสนิกชนเข้าร่วมพิธีภายในพิธี พระครูสุนทรธรรมพินิจ เจ้าคณะจังหวัดสุราษฎร์ ได้มอบวุฒิบัตรให้แก่สามเณรผู้ผ่านการฝึกอบรม ตามโครงการบรรพชาสามเณรภาคฤดูร้อน เมื่อวันที่ 20 เมษายน-6 พฤษภาคม 2567 จำนวน 81 รูป ตลอดจนกล่าวสัมโมทนียกถาเพื่อยังความปีติ เบิกบานใจ เพิ่มความเลื่อมใสศรัทธาแก่พุทธศาสนิกชน

ด้านนายนันธวัช เจริญวรรณ รองผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานี ได้กล่าวโอวาท ถึงการจัดโครงการบรรพชาสามเณรภาคฤดูร้อน เฉลิมพระเกียรติฯในครั้งนี้ เป็นการส่งเสริมให้เด็กและเยาวชนไทยได้แสดงความจงรักภักดีความกตัญญูกตเวทีและสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ และได้รับความรู้ในเรื่องหลักธรรมทางพระพุทธศาสนา ทั้งภาคทฤษฎีและภาคปฏิบัติ อันเป็นการพัฒนาตนเองให้เป็นคนดีมีคุณธรรมจริยธรรม และศีลธรรม ตลอดจนนำประสบการณ์ และความรู้ที่ได้ศึกษาเล่าเรียนครั้งนี้ ไปปรับใช้ในชีวิตประจำวันเติบโตเป็นพลเมืองที่ดีมีคุณภาพของประเทศชาติสืบไป.

กอ.รมน.จังหวัดสุราษฎร์ธานี ร่วมกับ หน่วยพัฒนาการเคลื่อนที่ 46 และ กลุ่มรวมน้ำใจพี่ให้น้อง จัดกิจกรรม เดินวิ่ง เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 72 พรรษา 28 กรกฎาคม 2567 Southern Half Marathon

 

วันที่ 5 พฤษภาคม 2567 ที่ถนนทางหลวงหมายเลข 44 (เซาร์เทิร์น ซีบอร์ด) หน้าหน่วยพัฒนาการเคลื่อนที่ 46 หน่วยบัญชาการทหารพัฒนา ตำบลวัดประดู่ อำเภอเมือง จังหวัดสุราษฎร์ธานี

นายมนตรา พรมสินธุ รองผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานี เป็นประธานเปิดกิจกรรมและปล่อยตัวนักวิ่ง ในการแข่งขัน เดินวิ่ง เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 72 พรรษา 28 กรกฎาคม 2567 Southern Half Marathon 2024 ซึ่งกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร (กอ.รมน.) จังหวัดสุราษฎร์ธานี ร่วมกับ หน่วยพัฒนาการเคลื่อนที่ 46 หน่วยบัญชาการทหารพัฒนา กองบัญชาการกองทัพไทย และ กลุ่มรวมน้ำใจพี่ให้น้อง ร่วมกันจัดขึ้น โดยมีหัวหน้าส่วนราชการ ผู้แทนจากภาคส่วนต่างๆ และนักวิ่งทุกเพศทุกวัย เข้าร่วมกิจกรรมนับพันคน
สำหรับกิจกรรมดังกล่าว จัดขึ้น เพื่อเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 72 พรรษา 28 กรกฎาคม 2567 และจัดหารายได้หลังหักค่าใช้จ่าย จะนำไปตั้งกองทุนการศึกษาสำหรับนักเรียนในโรงเรียนประถมศึกษาที่ยังขาดแคลนสิ่งต่างๆ เช่น อุปกรณ์กีฬา อุปกรณ์การเรียน เป็นต้น นอกจากนี้ ยังเป็นการสร้างรายได้แก่ผู้ประกอบการ ที่พัก ร้านอาหารในพื้นที่ อีกด้วย
ซึ่งการแข่งขัน แบ่งออกเป็น 4 ประเภท ได้แก่ ประเภท VIP ระยะทาง 5 กิโลเมตร,ประเภท ฟันรัน ระยะทาง 5 กิโลเมตร 6 รุ่นอายุ แยก ชาย - หญิง , ประเภท มินิมาราธอน ระยะทาง 10.5 กิโลเมตร 6 รุ่นอายุ แยก ชาย - หญิง และประเภท ฮาล์ฟ มาราธอน ระยะทาง 21 กิโลเมตร 5 รุ่นอายุ แยก ชาย - หญิง ซึ่งจุดปล่อยตัวและเส้นชัย จะอยู่ที่หน่วยพัฒนาการเคลื่อนที่ 46 ตำบลวัดประดู่ วิ่งไปตาม ถนนทางหลวงหมายเลข 44 (สายเซาร์เทิร์นซีบอร์ด) มุ่งหน้าไปอำเภอกาญจนดิษฐ์ ที่เป็นเส้นทางตรง ทางเรียบ ไม่มีแยกหรือเนิน และมีการปิดการจราจร 1 ช่องทางเพื่อความปลอดภัย ซึ่งบรรยากาศในภาพรวมเป็นไปด้วยความคึกคัก

ผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานี เปิดงาน Spotlight Koh Tao ส่งเสริมการท่องเที่ยวควบคู่การอนุรักษ์ ภายใต้ ปณิธานการท่องเที่ยวอย่างรับผิดชอบและมุ่งเป้าหมายสู่ความยั่งยืน

 

 

วันที่ 3 พฤษภาคม 2567 ที่บริเวณอ่าวลึก ตำบลเกาะเต่า อำเภอเกาะพะงัน จังหวัดสุราษฎร์ธานี

นายเจษฎา จิตรัตน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานี เป็นประธานเปิดงาน Spotlight Koh Tao 2024 โดยมี นายพงษ์ศักดิ์ จ่าแก้ว นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดสุราษฎร์ธานี พร้อมด้วย นางรำลึก อัศวชิน นายกสมาคมธุรกิจการท่องเที่ยวเกาะเต่า นายวัชรินทร์ ฟ้าสิริพร นายกเทศมนตรีตำบลเกาะเต่า ผู้นำท้องที่ ท้องถิ่น ส่วนราชการ ผู้ประกอบการธุรกิจท่องเที่ยวในพื้นที่ ชุมชน นักท่องเที่ยว ร่วมกิจกรรมจำนวนมาก
ผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานี กล่าวว่า เกาะเต่าเป็นสถานที่ท่องเที่ยวทางทะเล ของจังหวัดสุราษฎร์ธานี ที่ได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวจำนวนมาก แต่ละปีมีนักท่องเที่ยวไปเยือนนับ แสนคน เพราะเกาะเต่า ถือเป็นสวรรค์ของนักดำน้ำจากทั่วโลก และเป็นเรื่องที่น่ายินดีมาก ที่ทุกภาคส่วนในวงจรธุรกิจการท่องเที่ยวบนเกาะเต่า มีความมุ่งมั่นพัฒนาให้เป็นการท่องเที่ยวเศรษฐกิจสีเขียว ที่ใส่ใจดูแลสิ่งแวดล้อมและใช้ทรัพยากรธรรมชาติให้น้อยที่สุด และมุ่งสร้างแรงบันดาลใจให้นักท่องเที่ยวผู้มาเยือนได้ตระหนักรักษ์ในการดูแลทรัพยากรธรรมชาติ และสิ่งแวดล้อม
ทั้งนี้ การจัดงาน Spotlight Koh Tao 2024 จัดขึ้น ระหว่างวันที่ 3-5พฤษภาคมนี้ โดยความร่วมมือของ องค์การบริหารส่วนจังหวัดสุราษฎร์ธานี สมาคมธุรกิจการท่องเที่ยวเกาะเต่า ผู้ประกอบการท่องเที่ยวเกาะเต่า หน่วยงานภาครัฐและเอกชน เพื่อสนับสนุนและพัฒนาต่อยอดธุรกิจของผู้ประกอบท้องถิ่น ภาคการท่องเที่ยว และยกระดับเกาะเต่า แหล่งเรียนดำน้ำของโลก สู่ความเป็นแหล่งเรียนรู้การดำน้ำที่มีความรับผิดชอบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อม ผ่านกิจกรรมนักดำน้ำ ชมรมครูดำน้ำไทยเกาะเต่า ชมรมประมงพื้นบ้านเกาะเต่า และภาคีเครือข่ายร้านดำน้ำ ชมรมรักษ์เกาะเต่า สมาชิกสมาคม และผู้ประกอบการท่องเที่ยวเกาะเต่า โดยภายในงานมีการออกบูธนิทรรศการด้านการบริหารจัดการขยะ แบบZero waste การทำซั้งปลา สร้างที่อยู่ให้ปลา การลดขยะพลาสติก เป็นต้น ซึ่งการจัดงานครั้งนี้ เปรียบเสมือนการเปิดแสงไฟ ส่องมายังเกาะเต่า เพื่อให้นักท่องเที่ยวได้เห็นแสงแห่งความรู้รักษ์ธรรมชาติ แสงแห่งเศรษฐกิจสีเขียว แสงแห่งพลังชุมชน และแสงแห่งการจัดการเกาะอย่างยั่งยืน ภายใต้ปณิธานการท่องเที่ยวอย่างรับผิดชอบและมุ่งเป้าหมายสู่ความยั่งยืน

จังหวัดสุราษฎร์ธานีประชุมติดตามสถานการณ์ภัยแล้ง เพื่อหารือแนวทางการช่วยเหลือประชาชน ล่าสุด มี 3 อำเภอที่ได้รับผลกระทบและรายงานขอความช่วยเหลือแล้ว

 

วันที่ 2 พฤษภาคม 2567 เวลา 13.30 น. ที่ห้องนางยวน ศาลากลางจังหวัดสุราษฎร์ธานี

นายนันธวัช เจริญวรรณ รองผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานี เป็นประธานประชุมคณะกรรมการติดตามสถานการณ์ภัยแล้งจังหวัดสุราษฎร์ธานี พร้อมด้วย ส่วนราชการที่เกี่ยวข้องร่วมประชุม เพื่อติดตามสถานการณ์ภัยแล้ง และ ฝนทิ้งช่วง ผลกระทบที่เกิดขึ้นในพื้นที่ ทั้งพื้นที่การเกษตรและ การขาดแคลนน้ำเพื่ออุปโภคบริโภค โดยปัจจุบัน มี 3 อำเภอ ได้จัดส่งรายงานผลกระทบจากภัยแล้งเพื่อขอรับความช่วยเหลือจากจังหวัดสุราษฎร์ธานี ประกอบด้วย อำเภอกาญจนดิษฐ์ มีพื้นที่ได้รับผลกระทบ 6 ตำบล 57 หมู่บ้าน มีราษฎรได้รับความเดือดร้อน 4,458 ครัวเรือน กว่า 17,000 คน มีพื้นที่การเกษตรได้รับผลกระทบกว่า 29,000 ไร่ อำเภอบ้านนาสาร มีพื้นที่ได้รับผลกระทบ 12 ตำบล 62 หมู่บ้าน 25 ชุมชน มีราษฎรได้รับความเดือดร้อน 10,806 ครัวเรือน กว่า 30,000 คน มีพื้นที่การเกษตรได้รับผลกระทบกว่า 8,500 ไร่ และมีสิ่งสาธารณประโยชน์ได้รับผลกระทบ ได้แก่ สะพานน้ำล้น 1 แห่ง ฝาย 4 แห่ง แหล่งน้ำ 3 แห่งและสระน้ำสาธารณะใช้ในการเกษตร 2 แห่ง และ อำเภอบ้านตาขุน มีพื้นที่ได้รับผลกระทบ 1 ตำบล 2 หมู่บ้าน มีราษฎรได้รับความเดือดร้อน 1,312 ครัวเรือน กว่า 1,672 คน มีพื้นที่การเกษตรได้รับผลกระทบกว่า 1,750 ไร่
ทั้งนี้ ที่ประชุมได้นำเสนอถึงนิยามของภัยแล้ง ฝนแล้ง และฝนทิ้งช่วง รวมถึง ระเบียบปฏิบัติของการจ่ายเงินทดรองราชการในเชิงป้องกันหรือยับยั้งภัยพิบัติกรณีฉุกเฉิน และการประกาศเขตพื้นที่ประสบสาธารณภัยและประกาศเขตการให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉิน ซึ่งระเบียบการเบิกจ่ายและการช่วยเหลือประชาชน ในเชิงป้องกันหรือยับยั้งภัยพิบัติ กับ การช่วยเหลือเยียวยาเมื่อประกาศเขตภัยพิบัติแล้ว จะมีความแตกต่างกัน รองผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานี จึงสั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทำความเข้าใจ ซักซ้อมแนวปฏิบัติกับอำเภอและองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น เพื่อให้ปฏิบัติได้ถูกต้องตามระเบียบราชการ
นอกจากนี้ ศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเขต 11 สุราษฎร์ธานี ยังได้จัดส่งเครื่องสูบน้ำระยะไกล เพื่อสูบน้ำจากแหล่งน้ำมายังพื้นที่ขาดแคลน และเตรียมความพร้อมเครื่องจักรที่มีอยู่ รวมถึงขอสนับสนุนเครื่องสูบน้ำจากจังหวัดอื่น เพื่อเตรียมให้ความช่วยเหลือพื้นที่ที่ร้องขอมา ซึ่งหากท้องถิ่นหรืออำเภอใดไม่มีงบประมาณที่ใช้ดำเนินการ ก็สามารถเสนอขอรับการสนับสนุน มายังคณะกรรมการ ก.ช.ภ.จังหวัดสุราษฎร์ธานี เพื่ออนุมัติการช่วยเหลือ ขณะที่หน่วยปฏิบัติการฝนหลวงภาคใต้ ได้มาตั้งศูนย์ปฏิบัติการที่ กองบิน 7 ตั้งแต่วันที่ 19 เมษายน 2567 และขึ้นบินทำฝนหลวงต่อเนื่อง เพื่อช่วยเหลือพื้นที่ประสบภัยต่อไป

Copyright © 2021  www.suratthani.go.th