วันที่ 31 ตุลาคม 2566 เวลา 10.00 น.  ณ โรงแรมวังใต้ อำเภอเมืองฯ จังหวัดสุราษฎร์ธานี

นายมนตรา พรมสินธุ รองผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานี เป็นประธานเปิดการประชุมเชิงปฏิบัติการคณะกรรมการที่ปรึกษาระดับจังหวัดสุราษฎร์ธานี โครงการเสริมสร้างความสามารถของเมืองและธรรมชาติในการตั้งรับปรับตัวต่อผลกระทบจากวิกฤติสภาพภูมิอากาศ (Urban Resilience: Building and Nature) 
สำหรับการประชุมในครั้งนี้ เป็นการนำเสนอรายละเอียดโครงการเสริมสร้างความสามารถของเมืองและธรรมชาติในการตั้งรับปรับตัวต่อผลกระทบจากวิกฤติสภาพภูมิอากาศ (Urban Resilience: Building and Nature) ที่ทางไอยูซีเอ็น (IUCN) และหน่วยงานภาคีได้เขียนนำเสนอได้แก่ แผนงานปกป้องการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศระดับสากล (IKI) สหพันธ์สาธารณรัฐเยอรมนี เพื่อให้ได้รับการอนุมัติแผนงานโครงการช่วงการดำเนินการ ซึ่งมีระยะเวลาในการดำเนินการ 5 ปี ตั้งแต่ 1 พ.ย. 2566 - 31 ธ.ค. 2571 (60 เดือน) ในพื้นที่จังหวัดเชียงรายและจังหวัดสุราษฎร์ธานี รวมถึงการนำเสนอพื้นที่ที่มีความเป็นไปได้ในการนำเสนอมาตรการสาธิตแนวทางการแก้ปัญหาโดยอาศัยธรรมชาติเป็นฐานในพื้นที่จังหวัดสุราษฎร์ธานี เพื่อแลกเปลี่ยนและการแบ่งปันความรู้ระหว่างเจ้าหน้าที่ของรัฐ แสวงหาความร่วมมือและการสนับสนุนการดำเนินๆการที่ NbS จำเป็นภายในเขตเมืองเป้าหมาย

วันที่ 31 ตุลาคม 2566  ณ ศาลากลางจังหวัดสุราษฎร์ธานี

นายเจษฎา จิตรัตน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานี พร้อมด้วยนายกล้าณรงค์ ยุติธรรม หัวหน้าสำนักงานจังหวัด หัวหน้าส่วนราชการ หน่วยงานรัฐวิสาหกิจ และภาคเอกชน ร่วมให้การต้อนรับ H.E. Datuk Jojie Sarnuel (ดาโต๊ะโจจี แซมูเอล) เอกอัครราชทูตประเทศมาเลเชีย ประจำประเทศไทย และคณะ ในโอกาสเดินทางเข้าเยี่ยมคารวะผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานี เพื่อสานความสัมพันธ์อันดีระหว่างกัน

นาย H.E. Datuk Jojie Sarnuel (ดาโต๊ะโจจี แซมูเอล) กล่าวว่า การได้เดินทางมา เยี่ยมชมและพบปะ ผู้ประกอบการและหน่วยงานราชการที่เกี่ยวข้องของจังหวัดสุราษฎร์ธานีในครั้งนี้ ถือเป็นจุดเริ่มต้นของการความสัมพันธ์ระหว่างประเทศไทยกับประเทศมาเลเซีย การเดินทางมาครั้งนี้ ก็เพื่อพบปะกับนักธุรกิจ ผู้ประกอบการ และหน่วยงานราชการต่างๆที่เกี่ยวข้องเพื่อแลกเปลี่ยนความคิดเห็นด้านต่างๆเนื่องจากประเทศมาเลเซียและประเทศไทยมีความคล้ายคลึงกันในหลายๆด้านทั้งในด้านของพืชพันธุ์ไม้และพันธุ์สัตว์ ที่ผ่านมาประเทศมาเลเซียนำเข้าสินค้าอุปโภคบริโภคผ่านทางผู้ประกอบธุรกิจภาคเอกชน และเชื่อว่าในอนาคตประเทศมาเลเซียจะนำเข้าสินค้าประเภทอื่นๆ จากไทยมากขึ้น โดยเฉพาะสินค้าเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์อาหารทะเล และการเกษตร และขอชื่นชม จ.สุราษฎร์ธานีที่สามารถดึงศักยภาพของจังหวัดให้เกิดประโยชน์สูงสุดทั้งด้านอุตสาหกรรม เกษตรกรรม และการท่องเที่ยว ซึ่งสิ่งที่เราเห็นในวันนี้ จะได้นำไปเพื่อปรับใช้กับประเทศของเราและหวังเป็นอย่างยิ่งว่าประเทศไทยและประเทศมาเลเซีย จะสามารถเป็นคู่ค้าที่มีความสัมพันธ์อันดีกันในอนาคต

ในโอกาสนี้ผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานีกล่าวว่า
ประเทศไทยกับประเทศมาเลเซียมีความสัมพันธ์ทางการทูตที่ดีระหว่างกันมายาวนาน โดยทั้งสองฝ่ายมีความร่วมมือกันอย่างดีในทุกมิติ ไม่ว่าจะเป็นด้านการค้า การลงทุน การท่องเที่ยว วัฒนธรรม การศึกษา ซึ่งในปัจจุบันประเทศมาเลเซียถือเป็นประเทศที่สำคัญทางด้านการเมือง เศรษฐกิจ และสังคม ในเวทีระดับภูมิภาคและระดับโลก นอกจากนี้ประเทศมาเลเซียยังมีการพัฒนาอุตสาหกรรมเทคโนโลยีสารสนเทศ และความก้าวหน้าทางวิชาการที่เป็นที่ยอมรับในระดับสากล โดยจังหวัดสุราษฎร์ธานีจะผลักดัน การสร้างความสัมพันธ์ทางการค้า การลงทุน การท่องเที่ยว และการเกษตร ความปลอดภัยทางด้านอาหาร การผลักดันสายการบิน ในการบินตรงระหว่างเกาะสมุย-กัวลาลัมเปอร์ การเชื่อมต่อเส้นทางคมนาคม ได้แก่ รถไฟความเร็วสูง ทางสายการบิน และการเดินทางโดยรถ (การเชื่อมต่อทัวร์) เพื่อเสริมสร้างศักยภาพที่ดีที่มีอยู่แล้ว ให้ดียิ่งขึ้นไปอีก และการส่งออกผลไม้ ได้แก่ มะม่วง มังคุด ฝรั่ง เงาะ เป็นต้น

วันที่ 30 ตุลาคม 2566  ณ เวทีกลางลานอเนกประสงค์ริมเขื่อนแม่น้ำตาปี ข้างวัดกลางเก่า เขตเทศบาลนครสุราษฎร์ธานี ได้จัดพิธีพิธีสมโภชเรือพนมพระ พิธีมอบถ้วยพระราชทาน สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี พร้อมทั้งมอบโล่แก่ผู้สนับสนุนการจัดงานชักพระ ทอดผ้าป่าและแข่งเรือยาวจังหวัดสุราษฎร์ธานี ประจำปี 2566 โดยมีนายเจษฎา จิตรัตน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานี เป็นประธาน พร้อมด้วย นางดาเรศ จิตรัตน์ นายกเหล่ากาชาดจังหวัดสุราษฎร์ธานี นายประเสริฐ บุญประสพ นายกเทศมนตรีนครสุราษฎร์ธานี หัวหน้าส่วนราชการ ผู้บริหารและสมาชิกสภาเทศบาลนครสุราษฎร์ธานี ร่วมพิธี

สำหรับรางวัลถ้วยพระราชทาน 3 รางวัล ประกอบด้วย ถ้วยพระราชทานรางวัลชนะเลิศการประกวดพุ่มผ้าป่า ประจำปี 2566 ได้แก่ นายปรีชา ทองร่วง ถ้วยพระราชทานรางวัลชนะเลิศการแข่งเรือยาว 30 -32 ฝีพาย ได้แก่ ทีมยูงทอง และ ประเภท 20-22 ฝีพาย ได้แก่ ทีมทองประดู่ พร้อมกันนี้มีการมอบรางวัลประเภทต่างๆ บนเวทีด้วย ไม่ว่าจะเป็นรางวัลเรือชุมชน , แม่บ้านอสม. รางวัลพุ่มผ้าป่าประเภทสถาบันและประเภทประชาชน รวมไปถึงมอบโล่ เกียรติคุณผู้ร่วมการสนับสนุนงานประเพณีชักพระ-ทอดผ้าป่าและแข่งเรือยาว ประจำปี 2566 จังหวัดสุราษฎร์ธานี จากนั้น เป็นการแสดงชุดพิเศษ ประกอบแสง สี สุดตระการตา สมการรอคอยของนักท่องเที่ยว และประชาชน