จังหวัดสุราษฎร์ธานี ประชุมติดตามเร่งแก้ไขปัญหายาเสพติดในจังหวัด เน้นย้ำทุกภาคส่วนดำเนินการอย่างจริงจังและต่อเนื่อง
วันที่ 23 มกราคม 2568 เวลา 13.30 น. ณ ห้องประชุมเมืองคนดี ศาลากลางจังหวัดสุราษฎร์ธานี ชั้น 5
นายนันธวัช เจริญวรรณ รองผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานี เป็นประธานในการประชุมคณะกรรมการศูนย์อำนวยการป้องกันและปราบปรามยาเสพติดจังหวัด (ศอ.ปส.จ.สฎ.) พร้อมด้วยส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง ครั้งที่ 1/2568 เพื่อติดตามสถานการณ์ยาเสพติดในพื้นที่และร่วมกันกำหนดแนวทางการดำเนินงานในระยะต่อไป
โดยสถานการณ์ยาเสพติดในพื้นที่จังหวัดสุราษฎร์ธานีช่วงไตรมาสแรกของปีงบประมาณ 2568 ไม่พบการลักลอบลำเลียงยาเสพติดเข้ามาพักในพื้นที่ แม้จังหวัดจะเป็นศูนย์กลางการคมนาคมที่สำคัญ แต่เจ้าหน้าที่สามารถจับกุมผู้ค้ายาเสพติดรายสำคัญได้ถึง 5 ราย อย่างไรก็ตาม พบว่าปริมาณยาบ้าที่ตรวจยึดได้ลดลงจากช่วงเดียวกันของปีก่อน คาดว่าผู้ค้ารายใหญ่อาจย้ายฐานการเก็บยาเสพติดไปยังจังหวัดใกล้เคียง นอกจากนี้ ยังพบรูปแบบการส่งมอบยาเสพติดที่หลากหลายขึ้น เช่น การส่งมอบแบบพบปะโดยตรง การใช้พัสดุเอกชน และการวางยาเสพติดตามจุดนัดหมาย ส่วนราคายาเสพติดยังคงทรงตัว โดยยาบ้ามีราคาซื้อขายอยู่ที่มัดละ 17,000 บาท และไอซ์ราคา 5 ขีด 60,000 บาท โดยยาเสพติดที่พบมากที่สุดในพื้นที่คือ ยาบ้า รองลงมาคือ ไอซ์ ซึ่งพบการระบาดในบางพื้นที่ ส่วนเฮโรอีนยังคงพบในพื้นที่อำเภอเกาะสมุย สำหรับยาเสพติดประเภท Club Drugs พบการระบาดในวงจำกัด ส่วนใหญ่จะอยู่ในพื้นที่อำเภอเกาะสมุย และเกาะพะงัน ซึ่งนิยมใช้ในงานปาร์ตี้ ในช่วงไตรมาสนี้ มีการจับกุมผู้ค้าชาวต่างชาติที่ลักลอบจำหน่ายยาเสพติดให้กับนักท่องเที่ยวด้วยกัน สถิติการจับกุมคดียาเสพติดของตำรวจภูธรจังหวัดสุราษฎร์ธานีเพิ่มขึ้นเล็กน้อย โดยในไตรมาส 1 ปี 2568 มีการจับกุมทั้งสิ้น 1,958 คดี เพิ่มขึ้นร้อยละ 0.15 จากช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยยาเสพติดที่ถูกจับกุมส่วนใหญ่เป็นยาบ้าและไอซ์ คิดเป็นร้อยละ 77.59 และ 23.14 ของคดีทั้งหมดตามลำดับ
แม้สถานการณ์ยาเสพติดโดยรวมจะดีขึ้น แต่ยังคงต้องเฝ้าระวังยาเสพติดชนิดอื่นๆ ที่มีแนวโน้มการแพร่ระบาดเพิ่มขึ้น เช่น ยาอี เคตามีน และกัญชา โดยเฉพาะในกลุ่มเยาวชน ซึ่งพบว่ามีผู้เสพยาเสพติดอายุต่ำกว่า 20 ปี เป็นจำนวนมาก ทั้งนี้ สถิติการบำบัดรักษาในระบบ บสต. ในพื้นที่ภาคใต้ตอนบน ช่วงไตรมาส 1 ปี 2568 มีจำนวนทั้งสิ้น 1,828 คน เพิ่มขึ้นร้อยละ 30.48 จากช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยจังหวัดสุราษฎร์ธานีมีผู้เข้ารับการบำบัดรักษามากที่สุด รองลงมาคือจังหวัดนครศรีธรรมราช และจังหวัดชุมพร
ทั้งนี้ รองผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานี ได้กำชับให้ทุกภาคส่วนร่วมมือกันเฝ้าระวัง ป้องกัน และแก้ไขปัญหายาเสพติดในพื้นที่อย่างจริงจังและต่อเนื่อง โดยเฉพาะปัญหาการใช้ยาเสพติดในกลุ่มเยาวชน รวมถึง การติดตามผู้ป่วยจิตเวชจากยาเสพติดอย่างใกล้ชิด เพื่อป้องกันการทำร้ายตนเองและผู้อื่น และ ให้มีการประชาสัมพันธ์สร้างความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับโทษและพิษภัยของยาเสพติดให้กับประชาชน เพื่อลดปัญหาการแพร่ระบาดของยาเสพติดในจังหวัดสุราษฎร์ธานีอย่างยั่งยืนต่อไป