Accessibility Tools

A A A

messenger  facebook  youtube

Google Translate Widget by Infofru

Author Site Reviewresults

ผู้ตรวจการแผ่นดิน พร้อมด้วยคณะลงพื้นที่จังหวัดสุราษฎร์ธานีเพื่อหาแนวทางแก้ไขปัญหาการถือครองหรือครอบครองที่ดินหรืออสังหาริมทรัพย์โดยตัวแทนอำพรางของคนต่างด้าว

 

วันนี้ 14 มิถุนายน 2567 เวลา 08.30 น. ณ ห้องประชุมตาปี ศาลากลางจังหวัดสุราษฎร์ธานี ชั้น 4

นายมนตรา พรมสินธุ รองผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานี ให้การต้อนรับนายทรงศัก สายเชื้อ ผู้ตรวจการแผ่นดิน พร้อมด้วยหม่อมหลวง ปุณฑริก สมิติ ที่ปรึกษาผู้ตรวจการแผ่นดิน นายทิฆัมพร ยะลา รองเลขาธิการสำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดิน นายสิริน ชาวเพ็ชรดี ผู้อำนวยการสำนักสอบสวน 3 และคณะ ได้ร่วมประชุมถกปัญหาและอุปสรรคร่วมกับกอ.รมน.ภาค 4 และหน่วยงานใน 5 จังหวัดภาคใต้ เพื่อหาแนวทางแก้ไขปัญหาการถือครองหรือครอบครองที่ดินหรืออสังหาริมทรัพย์โดยตัวแทนอำพรางของคนต่างด้าว (นอมินี) เร่งพัฒนากฎหมายให้ทันการณ์ ป้องปรามความเสียหายจากทุนต่างชาติ

นายทรงศัก สายเชื้อ ผู้ตรวจการแผ่นดิน เปิดเผยว่า จากการที่ผู้ตรวจการแผ่นดินกำลังศึกษาแสวงหาข้อเท็จจริงกรณีปัญหาการถือครองหรือครอบครองที่ดินหรืออสังหาริมทรัพย์โดยตัวแทนอำพรางของคนต่างด้าว (นอมินี) อันจะนำไปสู่การแก้ไขปัญหาเชิงระบบโดยการปรับปรุงกฎหมาย กฎ หรือคำสั่งที่เกี่ยวข้อง หรือการตรากฎหมายเกี่ยวกับตัวแทนอำพรางหรือนอมินีขึ้นมาเป็นการเฉพาะเพื่อสร้างมาตรการป้องกันและลงโทษให้สอดคล้องกับสถานการณ์ที่ประเทศเรากำลังเผชิญอยู่โดยเร็ว ซึ่งล่าสุดเมื่อวันที่ 13 มิถุนายนที่ผ่านมาได้ลงพื้นที่ ณ เกาะสมุย พบว่าบริเวณยอดเขาและเชิงเขาหลายจุด เต็มไปด้วยวิลล่าหรู บ้านพักปลูกสร้าง ส่วนใหญ่เป็นพื้นที่ครอบครองของชาวต่างชาติทั้งจีน เยอรมัน รัสเซีย ฝรั่งเศส ที่ดำเนินกิจกรรมในนามบริษัทนิติบุคคลโดยใช้ชื่อนอมินีชาวไทยมาเป็นหุ้นส่วนใหญ่ทำธุรกิจและอสังหาริมทรัพย์ แล้วปัญหาลักษณะนี้พบได้มากในกลุ่มจังหวัดภาคใต้ซึ่งมีภูมิประเทศที่สวยงามและแหล่งท่องเที่ยวสำคัญเป็นที่หมายตาของทุนต่างชาติ ในวันนี้จึงได้ประชุมระดมความคิดเห็นจากทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องโดยได้รับความร่วมมืออย่างดีจากนายมนตรา พรมสินธุ รองผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานี พลตรี ศุภชัย ปรีชามาตร รอง ผอ.รมน.ภาค 4 และคณะ รวมทั้งหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้แก่ สำนักงานที่ดินจังหวัด สำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัด สำนักงานโยธาธิการและผังเมืองจังหวัด สำนักงานพาณิชย์จังหวัด สำนักงานสรรพากรพื้นที่ สำนักงานเจ้าท่าภูมิภาค สำนักงานจังหวัด สถานีตำรวจภูธร และเทศบาล จากจังหวัดสุราษฎร์ธานี และอีก 4 จังหวัดภาคใต้ทั้งภูเก็ต พังงา กระบี่ และประจวบคีรีขันธ์ ที่ร่วมประชุมผ่านระบบ Zoom มาด้วย

ทั้งนี้แนวทางการแก้ไขปัญหานอมินีของผู้ตรวจการแผ่นดินขณะนี้ คือ การแก้ไขปัญหาในระยะสั้น หรือระยะเร่งด่วนเฉพาะหน้า รวมทั้งแก้ในระยะต่อไปท้้งระบบได้แก่ 1) วางแนวทางและหลักการในเรื่องนี้ โดยในระยะเร่งด่วนมุ่งหยุดการแพร่กระจาย (Freeze) การถือครองอสังหาริมทรัพย์โดยเร่งดำเนินคดีและใช้มาตรการในเชิงป้องปราม ในระยะต่อไป เร่งขยายกฎหมายให้ครอบคลุมกรณีอื่น ๆ ให้มากขึ้น ขณะเดียวกัน เสนอแนะให้มีการแก้ไขทั้งระบบทั้งการป้องกัน การติดตามการบังคับใช้กฎหมาย และการแก้ไขฎหมาย 2) มาตรการตรวจสอบและควบคุมถึงการลงทุนและการบริหารจัดการของคนต่างด้าวในรูปแบบของนิติบุคคลไทยที่เข้าถือครองที่ดิน 3) มาตรการควบคุมการจดทะเบียนนิติกรรมที่ดินหรืออสังหาริมทรัพย์ที่ถือครองโดยนิติบุคคลสัญชาติไทยที่มีคนคนต่างด้าวถือหุ้นหรือลงทุน 4) การบูรณาการร่วมกันทั้งในระดับนโยบายทั้งส่วนกลางและระดับพื้นที่จังหวัด เพื่อให้เป็นกลไกแบบบูรณการที่สำคัญในการดำเนินการเรื่องนี้อย่างเป็นระบบ 5) การสร้างแรงจูงใจในการเฝ้าระวังการกระทำผิดของคนต่างด้าว ให้แก่คนไทย 6) มาตรการกำหนดเขตที่ดิน (Zoning) แบบเฝ้าระวัง 7) การแก้ไขเพิ่มเติมบทบัญญัติในนิยามคำว่า “คนต่างด้าว” ให้ครอบคลุมถึงอำนาจในการบริหารจัดการเหนือนิติบุคคลของคนต่างด้าว และสิทธิในการออกเสียงลงคะแนนอำนาจในการบริหารจัดการการดำเนินการของนิติบุคคลนั้น 😎 ในการแก้ไขกฎหมายที่เกี่ยวข้องในเรื่องนี้แบ่งออกเป็น 2 ลักษณะ อย่างแรก คือ จะมีข้อเสนอแนะให้แก้ไขกฎหมายที่เกี่ยวข้องอย่างเร่งด่วนซึ่งมีอยู่หลายฉบับ และอีกลักษณะหนึ่ง คือ เสนอแนะให้มีการยกร่างกฎหมายกลางที่เกี่ยวกับตัวแทนอำพรางและการทำธุรกรรมอำพรางโดยเฉพาะ ซึ่งปัจจุบันยังไม่มีกฎหมายเฉพาะในเรื่องนี้” นายทรงศัก กล่าวปิดท้าย

สุราษฎร์ธานีจัดพิธีมอบกล้าไม้ภายใต้โครงการ 72 ล้านต้น พลิกฟื้นผืนป่าเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 28 กรกฎาคม 2567

 

วันที่ 14 มิถุนายน 2567 เวลา 13.30 น.ณ อาคารศูนย์การประชุมสัมมนาภาคใต้ตอนบน ศูนย์ราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานี

นายมนตรา พรมสินธุ รองผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานี เป็นประธานในพิธีเปิดโครงการ 72 ล้านต้น พลิกฟื้นผืนป่าเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 28 กรกฎาคม 2567 จังหวัดสุราษฎร์ธานี เพื่อเป็นการสืบสาน รักษา ต่อยอด พระราชปณิธาน การพัฒนางานด้านการอนุรักษ์และฟื้นฟูทรัพยากรป่าไม้

ด้วยพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงเจริญพระชนมายุ 6 รอบหรือ 72 พรรษา ในวันที่ 28 กรกฎาคม 2567 นับเป็นมหามงคลสมัยพิเศษยิ่งด้วยสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณอย่างหาที่สุดมิได้ จังหวัดสุราษฎร์ธานี พร้อมด้วยหน่วยงานภาครัฐ องค์กร มูลนิธิ ภาคเอกชน และภาคประชาชน ได้น้อมนำแนวพระราชดำริพระราชปณิธาน และพระบรมราโชบายเกี่ยวกับการพัฒนาสิ่งแวดล้อม การพัฒนาคุณภาพชีวิตของประชาชน ให้อยู่ดีมีสุข ร่วมกันดำเนินโครงการ 72 ล้านต้น พลิกฟื้นผืนป่า เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 28 กรกฎาคม 2567 ซึ่งเป็นโครงการ ลำดับที่ 2 จาก 10 โครงการ ในการแสดงถึงพลังแห่งความจงรักภักดี และความสามัคคีของปวงชนชาวไทย เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลยิ่งนี้

ทั้งนี้จังหวัดสุราษฎร์ธานี ได้ร่วมกับทุกภาคส่วน ในการดำเนินโครงการ 72 ล้านต้นพลิกฟื้นผืนป่า เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 28 กรกฎาคม 2567 คัดเลือกพื้นที่ที่เหมาะสมในการปลูกต้นไม้และปลูกป่า ประกอบด้วย สถานที่ราชการ รัฐวิสาหกิจ สถานศึกษาที่สาธารณะ ศาสนสถาน พื้นที่ของเอกชน และพื้นที่อื่น ๆ นอกจากนี้ ยังมีเป้าหมายดำเนินการในพื้นที่ป่าเสื่อมโทรมในป่าสงวนแห่งชาติ ป่าอนุรักษ์ และป่าชายเลน ซึ่งอยู่ในความรับผิดชอบของหน่วยงานในสังกัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมในท้องที่จังหวัดสุราษฎร์ธานี

ผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานีส่งมอบธงตราสัญลักษณ์งานเฉลิมพระเกียรติ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 72 พรรษา 28 กรกฎาคม 2567 จากจังหวัดสุราษฎร์ธานีให้กับจังหวัดชุมพร

 

วันที่ 14 มิถุนายน 2567 เวลา 12.30 น.

นายเจษฎา จิตรัตน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานี พร้อมด้วย หัวหน้าส่วนราชการ และชาวจังหวัดสุราษฎร์ธานี ได้นำขบวนเดิน วิ่ง ปั่น ธงตราสัญลักษณ์งานเฉลิมพระเกียรติ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 72 พรรษา 28 กรกฎาคม 2567 จากจังหวัดสุราษฎร์ธานีเดินทางถึงบริเวณพิธี ณ หน้าที่ทำการองค์การบริหารส่วนตำบลสวนแตง อำเภอละแม จังหวัดชุมพร เพื่อทำพิธีส่งมอบธงตราสัญลักษณ์ฯ ขบวนสายที่ 8 (ฝั่งอ่าวไทย) ให้กับจังหวัดชุพร โดยมีนายวิสาห์ พูลศิริรัตน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดชุมพร พร้อมด้วยหัวหน้าส่วนราชการ ผู้นำท้องที่ท้องถิ่น และชาวอำเภอละแม ร่วมรับธงตราสัญลักษณ์ฯ ก่อนเคลื่อนขบวนไปยังศาลหลักเมืองจังหวัดชุมพร เพื่อรวมกับธงตราสัญลักษณ์ จากสายที่ 9 (ฝั่งอันดามัน) ที่เดินทางมาถึงก่อนหน้านี้ และทำพิธีฉลองธงตราสัญลักษณ์ ก่อนจะเคลื่อนขบวนไปส่งมอบให้จังหวัดประจวบคีรีขันธ์

สำหรับจังหวัดสุราษฎร์ธานี รับธงตราสัญลักษณ์จากจังหวัดนครศรีธรรมราช เมื่อวันที่ 12 มิถุนายน 2567 และเริ่มเคลื่อนขบวนจากอำเภอเวียงสระจังหวัดสุราษฎร์ธานี ผ่านพื้นที่ 7 อำเภอ โดยแวะพักที่อำเภอไชยา เพื่อทำพิธีเฉลิมฉลองธงตราสัญลักษณ์ ในวันที่ 13 มิถุนายน 2567 และในเช้าวันที่ 14 มิถุนายน 2567 ขบวนเดินวิ่งปั่นธงตราสัญลักษณ์จากจังหวัดสุราษฎร์ธานี ได้เคลื่อนจากอำเภอไชยาผ่านอำเภอท่าชนะ เพื่อส่งมอบให้กับจังหวัดชุมพร ที่อำเภอละแม รวมระยะทางทั้งสิ้น 150 กิโลเมตร ซึ่งมีผู้เข้าร่วมกิจกรรมตลอดเส้นทางเป็นจำนวนมาก.

รองผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานี ได้อบรมชี้แจงแก่ผู้บรรพชาอุปสมบท ตามโครงการบรรพชาอุปสมบท เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสมหามงคล เฉลิมพระชนมพรรษา ๖ รอบ ๒๘ กรกฎาคม ๒๕๖๗


วันที่ ๑๔ มิถุนายน ๒๕๖๗ เวลา ๐๙.๐๐น ณ วัดไตรธรรมาราม พระอารามหลวง อำเภอเมืองสุราษฎร์ธานี จังหวัดสุราษฏร์ธานี
นายสุคนธ์ หนูภักดี รองผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานี ได้อบรมชี้แจงแก่ผู้บรรพชาอุปสมบท ตามโครงการบรรพชาอุปสมบท เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสมหามงคล
เฉลิมพระชนมพรรษา ๖ รอบ ๒๘ กรกฎาคม ๒๕๖๗ จังหวัดสุราษฎร์ธานี
โดยจังหวัดสุราษฎร์ธานีได้บูรณาการจัดโครงการฯ ณ วัดไตรธรรมาราม พระอารามหลวง อำเภอเมืองสุราษฎร์ธานี จังหวัดสุราษฏร์ธานี ระหว่างวันที่ ๑๔ กรกฎาคม - ๓ สิงหาคม ๒๕๖๗ จำนวนไม่น้อยกว่า ๗๓ คน เพื่อให้การดำเนินโครงการดังกล่าว เป็นไปด้วยความเรียบร้อย

Copyright © 2021  www.suratthani.go.th

AChecker accessibility checker compliance: WCAG 2.0 (Level AAA) Valid CSS!