Accessibility Tools

A A A

messenger  facebook  youtube

Google Translate Widget by Infofru

Author Site Reviewresults

โครงการชลประทานจังหวัดสุราษฎร์ธานี ร่วมกับหน่วยงานภาคีเครือข่าย จัดโครงการพัฒนา 72 สายน้ำ อย่างยั่งยืน เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 28 กรกฎาคม 2567 พร้อมกับ 57 จังหวัดทั่วประเทศ



วันที่ 17 มิถุนายน 2567 เวลา 09.00 น.

นายมนตรา พรมสินธุ รองผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานี เป็นประธานเปิดโครงการพัฒนา 72 สายน้ำ อย่างยั่งยืน เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 28 กรกฎาคม 2567 ที่ฝายคลองท่าทอง หมู่ที่ 2 ตำบลไชยคราม อำเภอดอนสัก จังหวัดสุราษฎร์ธานี โดยมีนายนพดล มีวิเศษ ผู้อำนวยการโครงการชลประทานสุราษฎร์ธานี นางสาวจิตรา ราชแก้ว เกษตรและสหกรณ์จังหวัดสุราษฎร์ธานี ตลอดจน ผู้แทนกระทรวง 4 กระทรวงประกอบด้วย กระทรวงกลาโหม กระทรวงยุติธรรม กระทรวงมหาดไทย กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ส่วนราชการ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และประชาชนในพื้นที่ จากนั้น ได้ร่วมรับชมพิธีเปิดกิจกรรมภายใต้โครงการพัฒนา 72 สายน้ำ อย่างยั่งยืน เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 28 กรกฎาคม 2567 ของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เพื่อเฉลิมพระเกียรติ และสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว อีกทั้งเป็นการสนับสนุนการบริหารจัดการน้ำ และงานชลประทานเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพและทั่วถึง พร้อมกันทั้ง 27 จุด โดยรับสัญญานจาก เขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ จังหวัดลพบุรี โดยมี ร้อยเอก ธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีว่าการการทระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เป็นประธานในพิธี
สำหรับโครงการขุดลอกคลองโดยรถขุดดำเนินการเอง บริเวณหน้าฝายคลองท่าทอง ปริมาณดินขุด 132,500 ลูกบาศก์เมตร เพื่อศักยภาพในการกักเก็บน้ำ ใช้ในการส่งเสริมการเพาะปลูก อุปโภคบริโภคในช่วงฤดูฝนและหน้าแล้ง ตลอดจนเป็นแหล่งเพาะพันธุ์สัตว์น้ำ บรรเทาอุทกภัยที่อาจเกิดขึ้นในอนาคตและสามารถพัฒนาเป็นแหล่งท่องเที่ยวพักผ่อนให้ประชาชนในพื้นที่ใกล้เคียง โดยกิจกรรมวันนี้ ผู้เข้าร่วมกิจกรรม ยังได้ร่วมกันปล่อยพันธุ์ปลาจำนวน 72,000 ตัว เพื่อเพิ่มความอุดมสมบูรณ์ในแหล่งน้ำอีกด้วย

เลือก สว. สุราษฎร์ธานี ผ่านฉลุย ได้ตัวแทนระดับจังหวัด 39 คน ด้านผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานี ตรวจเยี่ยมติดตามความเรียบร้อย พร้อมให้กำลังใจผู้ผ่านการเลือกระดับจังหวัด การเลือก สว. ระดับจังหวัด ของจังหวัดสุราษฎร์ธานี

วันที่ 16 มิถุนายน 2567 โรงแรมบรรจงบุรี อำเภอเมือง จังหวัดสุราษฎร์ธานี

นายพลัฐฏ์ นิลเนาวรัตน์ ผู้อำนวยการสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้งประจำจังหวัดสุราษฎร์ธานี และ คณะกรรมการการเลือกสมาชิกวุฒิสภา ระดับจังหวัด ร่วมอำนวยการเลือก สว. ในครั้งนี้ และมีสื่อมวลชนอีกจำนวนหนึ่ง มาคอยสังเกตการณ์ ซึ่งตั้งแต่ช่วงเช้า ได้มีผู้ผ่านการคัดเลือกระดับอำเภอ จาก 19 อำเภอ ที่มีรายชื่อเข้ารับเลือกระดับจังหวัด รวม 314 คน จาก 20 กลุ่มอาชีพ ทยอยเดินทางมารายงานตัว เมื่อครบกำหนดเวลาพบว่า มีผู้ไม่มารายงานตัว 6 คน จากนั้น ได้เข้าสู่กระบวนการเลือก สมาชิกวุฒิสภาในรอบแรก แบบเลือกกันเองในแต่ละกลุ่มอาชีพ เพื่อหาตัวแทนกลุ่มอาชีพละ ไม่เกิน 5 คน เข้าสู่การเลือกแบบข้ามกลุ่ม และในช่วงบ่าย ได้มีจับสลากแบ่งกลุ่มผู้ผ่านการเลือกกันเองในรอบเช้า ออกเป็น 5 สาย และผู้ที่มาจากกลุ่มเดียวกันจะไม่มีสิทธิ์เลือกกันเอง โดยรอบนี้ จะเป็นการเลือกเพื่อหาตัวแทนระดับจังหวัด กลุ่มอาชีพละ 2 คน เพื่อเข้าสู่การเลือกในระดับประเทศ ซึ่งภาพรวมการจัดการเลือก สว. ระดับจังหวัดของจังหวัดสุราษฎร์ธานี เป็นไปด้วยความเรียบร้อย ไม่พบปัญหาอุปสรรคแต่อย่างใด 

ในช่วงบ่าย นายเจษฎา จิตรัตน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานี ได้เดินทางมาตรวจเยี่ยม ติดตามความเรียบร้อยของกระบวนการเลือก สว. โดยมี ว่าที่ร้อยโท สมชาย เรืองจันทร์ ปลัดจังหวัดสุราษฎร์ธานี พร้อมด้วย นายพลัฐฏ์ นิลเนาวรัตน์ รายงานการดำเนินงาน จากนั้น ผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานี ได้กล่าวพบปะและให้กำลังใจผู้ที่ผ่านการเลือก ในระดับจังหวัด ที่จะเป็นตัวแทนเข้าสู่การเลือกระดับประเทศ โดยเชื่อมั่นในความรู้ความสามารถของผู้ที่ได้รับเลือกทุกคน และหากได้เป็น สว.ก็ขอให้ทำหน้าที่เพื่อชาวสุราษฎร์ธานี และ คนไทยทั้งประเทศ ตามกระบวนการของรัฐสภา
ทั้งนี้ ผลการเลือกสมาชิกวุฒิสภาระดับจังหวัด กลุ่มละ 2 คน ของจังหวัดสุราษฎร์ธานี มีผู้ได้รับเลือก 39 คน จาก 20 กลุ่ม เนื่องจากกลุ่มที่ 18 มีผู้ได้รับเลือกเพียงคนเดียว และผู้มีชื่อเสียง หรือคนดังของจังหวัดสุราษฎร์ธานี ที่ผ่านการคัดเลือกมีหลายคน อาทิ พลเอกเกรียงไกร ศรีรักษ์ อดีตแม่ทัพภาคที่ 4 และผู้ช่วยผบ.ทบ. นายพีระ กาญจนพงศ์ อดีตผู้อำนวยการสำนักงาน ป.ป.ส. ภาค 8 นายวันสาด ศรีสุวรรณ ประธานสภาเกษตรกรจังหวัดสุราษฎร์ธานี นางสาวอัจฉรพรรณ หอมรส คณะกรรมการพัฒนาสตรีจังหวัดสุราษฎร์ธานี นางอัจฉราวดี เกื้อหนุน อดีตผู้สมัครสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรพรรคภูมิใจไทยจังหวัดสุราษฎร์ธานี

รมช.พาณิชย์ สุชาติ ชมกลิ่น มั่นใจ ตลาดส่งออกน้ำมันปาล์มยังสดใส และแนวโน้มราคาผลผลิตกำลังปรับตัวดีขึ้น ฝากเกษตรกรทำปาล์มคุณภาพเพื่อประโยชน์ของประเทศ

 

วันที่ 16 มิถุนายน 2567

นายสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ ลงพื้นที่ จังหวัดสุราษฎร์ธานี เพื่อติดตามการแก้ไขปัญหาเรื่องราคาปาล์มน้ำมัน และ สินค้าเกษตร โดยได้เข้าตรวจเยี่ยมที่ บริษัท พี.เค.มารีนเทรดดิ้ง จำกัด ในเครือบริษัทเพชรศรีวิชัย เอ็นเตอร์ไพรส์ จำกัด (มหาชน)

โดยมีนายมนตรา พรมสินธุ รองผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานี พร้อมด้วย สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรในพื้นที่ และส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง ร่วมต้อนรับ พร้อมประชุมหารือถึงสถานการณ์ราคาปาล์มน้ำมัน หลังสมาชิกสภาผู้แทนจังหวัดชุมพรและสุราษฎร์ธานี ได้รับเรื่องร้องเรียนถึงความเดือดร้อนในเรื่องราคาปาล์มตกต่ำ ในช่วง 3-4 อาทิตย์ที่ผ่านมา จึงได้สั่งการอธิบดีกรมการค้าภายใน และผู้เกี่ยวข้องลงพื้นที่มาแก้ไขปัญหา ซึ่งการลงมาครั้งนี้ ถือเป็นการติดตามผล โดยล่าสุดทราบว่าราคาผลผลิตปาล์มน้ำมันเริ่มปรับตัวดีขึ้น อยู่ที่ประมาณ 5 บาทต่อกิโลกรัม อย่างไรก็ตาม ยังคงต้องแก้ไขเรื่องของคุณภาพผลผลิตที่จะเข้าสู่โรงงาน ซึ่งหากเกษตรทำปาล์มคุณภาพ ผลผลิตปาล์มที่เข้าสู่โรงงานดี เปอร์เซ็นน้ำมันสูงขึ้น โรงงานอยู่ได้ เกษตรกรอยู่ได้ ซึ่งกรมการค้าภายใน ก็ได้สนับสนุนงบประมาณ มาฝึกอบรมพัฒนาการเก็บเกี่ยวผลผลิตปาล์มให้ได้คุณภาพให้เก็บเกษตรกร

ส่วนการมาพบปะภาคเอกชน บริษัท พี.เค.มารีนเทรดดิ้ง จำกัด ซึ่งเป็นคลังน้ำมันปาล์ม และท่าเทียบเรือส่งออกน้ำมันปาล์ม ที่เป็นศูนย์กลางการขนส่งรายใหญ่ของประเทศ ก็เป็นการหารือถึงการขับเคลื่อนการส่งออกน้ำมันปาล์มไปยังตลาดต่างประเทศ ซึ่งเรื่องนี้ นายภูมิธรรม เวชยชัยรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ได้มอบหมายให้ กรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ ไปเปิดตลาดในต่างประเทศ โดยเฉพาะประเทศจีนและประเทศอินเดีย เพื่อเพิ่มปริมาณการรับซื้อตลาดน้ำมันปาล์ม ซึ่งถ้าเราเพิ่มตลาดส่งออกได้ เกษตรกรผู้ปลูกปาล์มซึ่งเป็นต้นน้ำก็ไม่ต้องกังวลเรื่องราคาปาล์มจะตกต่ำอีก
นายสุชาติฯ ย้ำว่า ”ขณะนี้สถานการณ์การส่งออกน้ำมันปาล์มสดใส ยังมีความต้องการปริมาณน้ำมันปาล์มทั่วโลก โดยกระทรวงพาณิชย์ มุ่งเป้าการส่งออกให้มาโฟกัสที่ตลาดอินเดีย และตลาดใหญ่ทุกประเทศเพื่อรองรับการส่งออก ที่จะช่วยให้ราคาปาล์มเพิ่มสูงขึ้น แต่สิ่งสำคัญ ต้องขอฝากเกษตรกรให้เรียนรู้และทำความเข้าใจ เกี่ยวกับการทำปาล์มคุณภาพและสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดภาคใต้ทุกท่าน ก็คอยดูแลสินค้าปาล์มน้ำมัน และกระทรวงพาณิชย์ จะได้ติดตามสถานการณ์ปัญหาและมอบหมายหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง แก้ไขปัญหาให้กับเกษตรกรอย่างต่อเนื่อง

ทั้งนี้ ปริมาณการส่งออกน้ำมันปาล์ม พบว่า ณ เดือนพฤษภาคม 2567 ปริมาณการส่งออกน้ำมันปาล์มดิบภาพรวม อยู่ที่ประมาณ 0.12 ล้านตัน และปรับเพิ่มสูงขึ้นจากเดือนก่อนเล็กน้อย โดยปัจจัยบวกที่สำคัญคือ ค่าเงินบาทที่อ่อนค่าลง ซึ่งช่วยเพิ่มความสามารถในการแข็งขันกับ ประเทศเพื่อนบ้าน โดยปัจจุบันผู้นำเข้านำ้มันปาล์มดิบที่สำคัญของไทย ได้แก่ อินเดีย

จากนั้นรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ได้เดินทางต่อ ไปยังเทศบาลนครสุราษฎร์ธานี พบปะผู้ประกอบการสวนทุเรียน เพื่อรับฟัง ปัญหา อุปสรรค พร้อมหารือแนวทางในการแก้ปัญหาที่เกิดขึ้นในส่วนต่างๆ ต่อไป

รองผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานี ร่วมพิธีบรรจุพระบรมสารีริกธาตุและถวายพระพุทธรูปปางปฐมเทศนา ตามที่บริษัท ออโต้เอ็กซ์ จำกัด และบริษัทบ้านสวยกรุ๊ป จำกัด


วันที่ ๑๖ มิถุนายน ๒๕๖๗ เวลา ๐๙.๐๐น. ณ มณฑลพิธีวัด ตะกรบ ตำบลตะกรบ อำเภอไชยา จังหวัดสุราษฎร์ธานี
นายสุคนธ์ หนูภักดี รองผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานี ร่วมพิธีบรรจุพระบรมสารีริกธาตุและถวายพระพุทธรูปปางปฐมเทศนา ตามที่บริษัท ออโต้เอ็กซ์ จำกัด และบริษัทบ้านสวยกรุ๊ป จำกัด ได้ถวายพระพุทธรูปปางปฐมเทศนาขนาดหน้าตัก ๑๒๐ นิ้ว มีน้ำหนัก ๒๘ ตัน และในการนี้วัดตะกรบ จึงได้มีการจัดพิธีบรรจุพระบรมสารีริกธาตุ และถวายพระพุทธรูปปางปฐมเทศนา เพื่อให้ประชาชนได้กราบไหว้บูชาสักการะและน้อมนำคำสอนของพระพุทธศาสนาไปปฏิบัติให้เกิดความผาสุก ความเจริญขึ้นในชีวิต

Copyright © 2021  www.suratthani.go.th

AChecker accessibility checker compliance: WCAG 2.0 (Level AAA) Valid CSS!