วันที่ 25 มกราคม 2564
นายสุนทร เดชรักษา ผู้บัญชาการเรือนจำกลางสุราษฎร์ธานี กล่าวว่า มีความปีติยินดีอย่างยิ่ง ที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้า โปรดกระหม่อมให้นายวิชวุทย์ จินโต ผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานี เป็นผู้แทนพระองค์ ในพิธีปิดการฝึกโครงการพระราชทานโคกหนองนาแห่งน้ำใจและความหวัง โดยกล่าวรายงานผลกรปฏิบัติในการฝึกโครงการพระราชทานโคกหนองนาแห่งน้ำใจและความหวัง ของเรือนจำกลางสุราษฎร์ธานี กรมราชทัณฑ์ ตามที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว มหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวารางกูร ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมพระราชทาน ให้มีการฝึกโครงการพระราชทานโคกหนองนาแห่งน้ำใจและความหวัง ของเรือนจำกลางสุราษฎร์ธานี กรมราชทัณฑ์ ซึ่งเป็นการประยุกต์ใช้ทฤษฎีใหม่แบบชาวบ้าน ปั้นโคก ขุดหนอง ทำนา เพื่อสร้างต้นแบบเกษตรทฤษฎีใหม่ในพื้นที่ขนาดเล็ก โดยสามารถดำเนินการ ได้ในทุกเงื่อนไขของพื้นที่ และมุ่งเน้นการปรับเปลี่ยนพื้นฐานความคิด การฝึกวินัย การลงมือปฏิบัติ ตลอดจนการแก้ปัญหาในสถานการณ์จริง เพื่อให้ผู้ต้องขังสามารถพึ่งพาตนเอง และช่วยเหลือผู้อื่นที่ได้รับความเดือดร้อนได้เมื่อพ้นโทษออกไปภายนอก ปัจจุบันการฝึกโครงการพระราชทานโคกหนองนาแห่งน้ำใจและความหวังของเรือนจำกลาง สุราษฎร์ธานี กรมราชทัณฑ์ มีผู้เข้ารับการฝึกเป็นผู้ต้องชังที่เป็นคนไทย 222 คน และชาวต่างชาติ 9คน รวมทั้งสิ้น 231 คน โดยปฏิบัติการฝึกอบรมเป็นเวลา 14 วัน /ระหว่างวันที่ 11 มกราคม 2564 ถึง วันที่ 24 มกราคม 2564 แบ่งการฝึกเป็น 3 ขั้นตอน ได้แก่ขั้นที่ 1 การอบรมพึ่งตนด้วยทฤษฎีเศรษฐกิจพอเพียง ขั้นที่ 2 การแปลทฤษฎีเศรษฐกิจพอเพียงสู่การปฏิบัติ ประกอบด้วย การออกแบบแนวคิดการบริหารจัดการพื้นที่ขนาดเล็ก การประยุกต์ ทฤษฎีใหม่แบบชาวบ้าน ปั้นโคก ขุดหนอง ทำนา ตามภูมิสังคม ลงบนกระดาษ การสร้างพื้นที่จำลอง (Table Top Exercise) และวางแผนการปลูกป้า 3 อย่าง ประโยชน์ 4 อย่าง เพื่อพออยู่ พอกิน พอใช้ และพอร่มเย็น การปฏิบัติในพื้นที่จริงมีขนาด 1 งาน หรือ 412 ตารางเมตร ตามทฤษฎีใหม่แบบชาวบ้าน ปั้นโคก ขุดหนอง ทำนา ตามภูมิสังคมขั้นที่ 3 การสรุปและประเมินผล ทั้งนี้ มีผู้สำเร็จการฝึก จำนวนทั้งสิ้น 231 คน ซึ่งผู้ที่สำเร็จการฝึกอบรมสามารถพึ่งพาตนเองตามแนวทางเศรษฐกิจพอเพียงและทฤษฎีใหม่ ทั้งสามารถช่วยเหลือประชาชน ทำประโยชน์เพื่อส่วนรวมได้ หลังจากผู้ต้องขังที่จะรับการพ้นโทษในโอกาสต่อไป จะต้องไปดำเนินการในพื้นที่ ตามภูมิลำเนาของตนเอง อันเป็นการสืบสานพระราชปณิธานของพระบทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ในการสืบสาน รักษา ต่อยอด โครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริต่างๆ ของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร โดยถ่ายทอดความรู้ความเข้าใจแก่ประชาชน เพื่อพัฒนาชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น และช่วยกันพัฒนาประเทศให้เจริญก้าวหน้าต่อไป.
ณ เรือนจำกลางสุราษฎร์ธานี จังหวัดสุราษฎร์ธานี
