วันที่ 29 ธันวาคม พ.ศ. 2565 เวลา 15.30 น. ณ อำเภอบ้านตาขุน จังหวัดสุราษฎร์ธานี

       นายชูศักดิ์  รู้ยิ่ง รองผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานี เดินทางไปตรวจเยี่ยมและให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานศูนย์อำนวยการร่วมป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนช่วงเทศกาลปีใหม่ พ.ศ. 2566 จังหวัดสุราษฎร์ธานี ภายใต้มาตรการ "ชีวิตวิถีใหม่ ขับขี่อย่างปลอดภัย ไร้อุบัติเหตุ" ในช่วงควบคุมเข้มข้น ระหว่างวันที่ 29 ธันวาคม 2565 ถึงวันที่ 4 มกราคม 2566  ณ บริเวณหน้าวัดตาขุน และบริเวณท่าเรือท่องเที่ยวเทศบาลตำบลบ้านเชี่ยวหลาน  เพื่อให้กำลังเจ้าหน้าที่ในการบังคับใช้กฎหมายและการให้บริการประชาชนและนักท่องเที่ยวในพื้นที่อำเภอบ้านตาขุน โดยมีหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมประกอบด้วย นายอำเภอบ้านตาขุน ฝ่ายปกครอง ตำรวจ เจ้าหน้าที่อุทยานฯ  สาธารณสุข  องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น อปพร. อสม. และจิตอาสา
        ในโอกาสนี้ ได้ให้คำแนะนำในการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ให้สอดรับกับแนวทางการปฏิบัติ และพร้อมคุมเข้มความปลอดภัยของยานพาหนะทุกประเภท รวมทั้งพฤติกรรมเสี่ยงอุบัติเหตุทางถนนทุกรูปแบบควบคู่กับการดูแลความปลอดภัยในการสัญจรในทุกเส้นทาง เพื่อให้ประชาชนเดินทางไปถึงจุดหมายปลายทางโดยสวัสดิภาพ

วันที่ 29 ธันวาคม 2565  ณ ศาลากลางจังหวัดสุราษฎร์ธานี นายวิชวุทย์ จินโต ผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานี มอบหมายให้นายนันธวัช เจริญวรรณ รองผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานี ร่วมประชุมคณะกรรมการศูนย์อำนวยการความปลอดภัยทางถนน ครั้งที่ 3/2565 ผ่านระบบวีดิทัศน์ทางไกล VCS พร้อมกับจังหวัดต่างๆ ทั่วประเทศ เพื่อรับทราบนโยบายและข้อสั่งการของพลเอก อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย และผู้บริหารระดับสูงจากส่วนกลาง ตลอดจนผู้เกี่ยวข้องในการดำเนินการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนน ทางน้ำ และทางอากาศช่วงเทศกาลปีใหม่ 2566

ในการนี้จังหวัดสุราษฎร์ธานี ภายใต้การนำของนายวิชวุทย์ จินโต ผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานี มีข้อเน้นย้ำในการดำเนินการป้องกันและลดอุบัติเหตุฯ ช่วงเทศกาลปีใหม่ 2566 ที่สำคัญ 11 มาตรการ ประกอบด้วย 1.เป้าหมายในการดำเนินการ อุบัติเหตุ ผู้บาดเจ็บ ผู้เสียชีวิต จะต้องลดลงจากการดำเนินการ 3 ปีย้อนหลัง 5 เปอร์เซ็นต์เกิดอุบัติเหตุไม่เกิน 76 ครั้ง ผู้บาดเจ็บไม่เกิน 78 ราย ผู้เสียชีวิตไม่เกิน 5 ราย 2.การบังคับใช้กฎหมาย 10 มาตรการรสขม อย่างจริงจัง เน้น หมวก เมา เร็ว และการตรวจปริมาณแอลกอฮอล์ทุกรายที่เกิดเหตุทั้ง 2 ฝ่าย 3.ขอให้แขวงทางหลวงสุราษฎร์ธานีทุกแห่ง แขวงทางหลวงชนบท ได้จัดตั้งจุดชะลอความเร็ว บริเวณจุดเสี่ยงการเกิดอุบัติเหตุบ่อยครั้ง การแก้ไขจุดเสี่ยง สัญญาณไฟต่าง ๆ จุดตัดทางรถไฟให้พร้อมใช้ 4.ให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นทุกแห่ง จัดตั้งด่านชุมชน เน้นถนนในหมู่บ้าน สายรองเป็นหลัก 5.ให้อำเภอ ร่วมกับ สถานีตำรวจภูธร และภาคีเครือข่าย ตั้งจุดตรวจร่วม อำเภอละ 2 จุด 6.ให้หน่วยงานที่มีรถกู้ภัย รถที่มีสัญญาณไฟวับวาบ วิ่งเปิดสัญญาณบนถนนในช่วงฝนตก หรือตั้งแต่เวลา 18.00-24.00 น. 7.ให้ขนส่งจังหวัด กำกับ ควบคุม รถโดยสารสาธารณะ รถโดยสารไม่ประจำทาง พนักงานขับรถ พนักงานประจำรถ ให้ถือปฏิบัติตามระเบียบกฎหมายอย่างเคร่งครัด พร้อมทั้งการตรวจสอบสภาพรถให้พร้อมใช้งาน 8.ให้ประชาสัมพันธ์ สถานีวิทยุ โทรทัศน์ รณรงค์ ประชาสัมพันธ์ ให้ผู้ใช้รถใช้ถนน ขับขี่รถด้วยความระมัดระวัง ปฏิบัติตามกฎหมายจราจรอย่างเคร่งครัด 9.ขอให้สำนักงานสาธารณสุขจังหวัด จัดเตรียมความพร้อมของโรงพยาบาล แพทย์ พยาบาล และหน่วยบริการการแพทย์ฉุกเฉิน ให้ความช่วยเหลือผู้ประสบอุบัติเหตุด้วยความรวดเร็ว 10.ให้ ศปถ.อำเภอ รายงานข้อมูลประจำวันตามแบบรายงานให้ครบถ้วนก่อนเวลา 00.00 น. หากเกิดอุบัติเหตุทางถนนเสียชีวิตในพื้นที่ ให้ ศปถ.อำเภอ และภาคีเครือข่ายลงพื้นที่ตรวจสอบข้อมูลเชิงลึกและเข้าร่วมประชุม ศปถ.จังหวัด ในวันถัดไป และ 11.การเฝ้าระวังป้องกันการแพร่ระบาดของโรค Covid-2019 ขอให้ปฏิบัติงานด้วยความระมัดระวัง.

วันที่ 29 ธันวาคม พ.ศ. 2565 เวลา 14.30 น. ณ อำเภอพนมจังหวัดสุราษฎร์ธานี

       นายชูศักดิ์  รู้ยิ่ง รองผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานี เดินไปตรวจเยี่ยมและให้กำลังเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานศูนย์อำนวยการร่วมป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนช่วงเทศกาลปีใหม่ พ.ศ. 2566 จังหวัดสุราษฎร์ธานี ภายใต้มาตรการ "ชีวิตวิถีใหม่ ขับขี่อย่างปลอดภัย ไร้อุบัติเหตุ" ในช่วงควบคุมเข้มข้น ระหว่างวันที่ 29 ธันวาคม 2565 ถึงวันที่ 4 มกราคม 2566  ณ บริเวณหน้าตลาดเทศบาลตำบลพนม  และบริเวณหน้าศาลาหมู่บ้าน หมู่ที่ 7 ต.คลองชะอุ่น  เพื่อให้กำลังเจ้าหน้าที่ในการบังคับใช้กฎหมายและการให้บริการประชาชนและนักท่องเที่ยวในพื้นที่อำเภอพนม โดยมีหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมประกอบด้วยฝ่ายปกครอง ตำรวจ สาธารณสุข องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น อปพร. อสม. และจิตอาสา ในโอกาสนี้ ได้ให้คำแนะนำในการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ให้สอดรับกับแนวทางการปฏิบัติ และพร้อมคุมเข้มความปลอดภัยของยานพาหนะทุกประเภทและพฤติกรรมเสี่ยงอุบัติเหตุทางถนนทุกรูปแบบควบคู่กับการดูแลความปลอดภัยในการสัญจรในทุกเส้นทาง เพื่อให้ประชาชนเดินทางไปถึงจุดหมายปลายทางโดยสวัสดิภาพ