วันที่ 6 ธันวาคม 2566

นายมนตรา พรมสินธุ รองผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานี ประชุมคณะอนุกรรมการทรัพยากรน้ำจังหวัดสุราษฎร์ธานี ครั้งที่ 3/2566 ณ ห้องนางยวน ชั้น 5 ศาลากลางจังหวัดสุราษฎร์ธานี เพื่อพิจารณากลั่นกรองและจัดลำดับความสำคัญแผนงานโครงการเพิ่มประสิทธิภาพการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำ เพื่อรองรับสถานการณ์ภัยแล้งและฝนทิ้งช่วง ปี 2567 โดยใช้เครื่องมือจัดลำดับความสำคัญในระบบ Thai Water Plan พิจารณากำหนดค่าน้ำหนัก ค่าเป้าหมายตามแผนแม่บทฯ น้ำ 20 ปี แต่ละด้าน ก่อนมอบหมายให้ฝ่ายเลขานุการดำเนินการจัดลำดับความสำคัญโครงการในระบบ Thai Water Plan ตามกรอบเวลาที่กำหนดต่อไป

สำหรับการจัดทำข้อเสนอแผนงานโครงการเพิ่มประสิทธิภาพการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำ เพื่อรองรับสถนการณ์ภัยแล้งเละฝนทิ้งช่วง ปี 2567 จังหวัดสุราษฎร์ธานี ตามกรอบระยะเวลาดำเนินการ ได้มีการกำหนดนำส่งข้อมูลแผนงานโครงการฯ Sign off 2 กายในวันที่ 8 ธันวาคม 2566 นั้น จังหวัดได้ตรวจสอบแผนงานโครงการดังกล่าวผ่านระบบ Thai Water Plan ปรากฏว่า ไม่มีโครงการที่จังหวัดเป็นหน่วยรับงบประมาณ โดยเป็นโครงการที่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นและกรมต่างๆ เสนอเพื่อดำเนินการในพื้นที่จังหวัดสุราษฎร์ธานี เป็นหน่วยรับงบประมาณ จำนวน 119 โครงการ วงเงิน 225,108,200 บาท ซึ่งได้ตรวจสอบกลั่นกรองแผนงาน/โครงการ โดยเบื้องต้น ไม่มีโครงการซ้ำช้อนแต่อย่างใด จำแนกได้ ดังนี้ 1.สำนักงานส่งเสริมการปกครองท้องถิ่นจังหวัด จำนวน 35 โครงการ กรมชลประทาน 34 โครงการ กองทัพบก 1 โครงการ การประปาส่วนภูมิภาค 5 โครงการ กรมทรัพยากรน้ำ 14 โครงการ กรมทรัพยากรน้ำบาดาล 2 โครงการ และกรมพัฒนาที่ดิน 28 โครงการ

ทั้งนี้วัตถุประสงค์ของแต่ละโครงการเพื่อแก้ไขปัญหาและบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชนจากสถานการณ์ขาดแคลนน้ำหรือเสี่ยงภัยแล้ง ส่งเสริมให้เกิดการสร้างอาชีพ รายได้ และการจ้างแรงงานให้กับประชาชนหรือผู้ได้รับผลกระทบจากภัยแล้ง รวมทั้งเพื่อเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจในภาพรวมของประเทศ.

วันที่ 5 ธันวาคม 2566

นายเจษฏา จิตรัตน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานี พร้อมด้วย ว่าที่ร้อยโท สมชาย เรืองจันทร์ ปลัดจังหวัดสุราษฎร์ธานี นางสาวกานสินี โอภาสรังสรรค์ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดสุราษฎร์ธานี นายประเสริฐ บุญประสพ นายกเทศมนตรีนครสุราษฎร์ธานี และ ภาคส่วนต่างๆ ลงพื้นที่ศูนย์ช่วยเหลือผู้ประสบภัยฯ บริเวณเชิงสะพานศรีสุราษฎร์ ซึ่งตั้งเป็นศูนย์เฉพาะกิจอำนวยการค้นหาผู้สูญหาย โดยมีนายสิทธิชัย ไทยเจริญ นายอำเภอเมืองสุราษฎร์ธานี หน่วยกู้ภัยมูลนิธิกุศลศรัทธาสุราษฎร์ธานี ศร.ชล.สุราษฎร์ธานี สำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยสุราษฎร์ธานี ตำรวจภูธรเมืองสุราษฎร์ธานี และภาคส่วนต่างๆ รวมถึง ญาติและครอบครัวของ นายจิตรกร เจียมสกุล หรือบอย อายุ 45 ปี ชาวตำบลตะเคียนทอง อำเภอกาญจนดิษฐ์ ซึ่งเป็นพี่ชายแท้ๆ ของบิว กัลยาณี นักร้องดัง ที่ก่อเหตุกระโดดสะพานศรีสุราษฎร์ เมื่อเวลา 17.00 น.วานนี้ (4 ธ.ค.66) เพื่อพูดคุยวางแผนการค้นหา รวมถึง หารือแนวทางป้องกันการก่อเหตุลักษณะเดียวกันซ้ำรอย
นายอำเภอเมืองสุราษฎร์ธานี ระบุว่า สะพานศรีสุราษฎร์ เปิดใช้งานเมื่อปี 2556 เป็นสะพานข้ามแม่น้ำตาปี เพื่อเป็นเส้นทางข้ามแม่น้ำตาปีอีกจุด และเป็นถนนเลี่ยงเมือง โดยตัวสะพานมีความสูงจากผิวน้ำประมาณ 40 เมตร เพื่อรองรับการขนส่งสินค้าทางเรือ รวมถึงเป็นจุดเช็คอิน ที่มีวิวแม่น้ำที่สวยงาม แต่หลายปีที่ผ่านมาได้มีคนพยายามใช้สะพานดังกล่าวกระโดดฆ่าตัวตายต่อเนื่อง ซึ่งบางรายก็ทำสำเร็จ บางรายก็สามารถเจรจาเกลี้ยกล่อมได้ทัน ซึ่งปัจจุบันได้ตั้งหน่วยกู้ภัยบริเวณใต้สะพาน และ มีชุดเคลื่อนที่เร็ว ที่ร่วมกันระหว่าง ตำรวจ หน่วยกู้ภัย และเทศบาลนครสุราษฎร์ธานี ที่จะเข้าช่วยเหลือเจรจา เมื่อได้รับแจ้งว่าพบผู้มีพฤติกรรมเสี่ยง
ด้านผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานี ได้พูดคุยให้กำลังใจญาติ ครอบครัวผู้สูญหาย และวางแผนร่วมในการค้นหาโดยกำชับให้ทีมกู้ภัยคำนึงถึงความปลอดภัย และตรวจสอบหาข่าวให้ดีที่สุดป้องกันการผิดพลาด พร้อมทั้งรับฟังปัญหาที่เกิดขึ้นจากการกระโดดสะพาน ซึ่งมีข้อเสนอแนวทางแก้ไขปัญหาระยะยาวหลายด้าน โดยผู้ว่าฯ ได้รับไปเป็นข้อมูลเพื่อเชิญหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อหาแนวทางป้องกันปัญหาต่อไป จากนั้น ได้ร่วมลงเรือเพื่อค้นหาผู้สูญหาย ดูที่เกิดเหตุ ตลอดจน ตรวจสอบความเป็นไปได้ในมุมต่างๆ

วันที่ 5 ธันวาคม 2566

นายเจษฏา จิตรัตน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานี ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์อำนวยการจิตอาสาพระราชทานจังหวัดสุราษฎร์ธานี เป็นประธานในกิจกรรมจิตอาสาพัฒนาและจิตอาสาบริการเนื่องในวันคล้ายวันพระบรมราชสมภพพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร วันชาติ และวันพ่อแห่งชาติ ประจำปี 2566 ที่จัดขึ้น ณ วัดบุญบันเทิง หมู่ที่ 2 ตำบลคลองน้อย อำเภอเมืองฯ จังหวัดสุราษฎร์ธานี โดยมีจิตอาสาพระราชทาน นักเรียน นักศึกษา และประชาชนทุกหมู่เหล่า เข้าร่วมกิจกรรมเป็นจำนวนมาก เพื่อร่วมแสดงออกถึงความจงรักภักดี น้อมรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณอันหาที่สุดมิได้ และเพื่อน้อมสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ ที่พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทร มหาวชิราลงกรณ พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงพระราชทานโครงการจิตอาสาพระราชทาน ด้วยทรงมุ่งหวังให้พสกนิกรทุกหมู่เหล่า ปรองดอง สามัคคี ร่วมมือร่วมใจ ประกอบกิจกรรมสาธารณะเพื่อประโยชน์สุขของชุมชนส่วนรวม โดยไม่หวังสิ่งตอบแทน ให้มีความรักความผูกพันของ 4 สถาบันหลักของชาติ คือ สถาบันชาติ สถาบันศาสนา สถาบันพระมหากษัตริย์ และประชาชน

โดยในวันนี้ ได้ร่วมกันปล่อยพันธุ์สัตว์น้ำ เก็บกวาดขยะ ตัดแต่งกิ่งไม้ พัฒนาทำความสะอาดโดยรอบบริเวณวัด และกิจกรรมจิตอาสาให้บริการ อาทิ เช็คซ่อมยานพาหนะ เครื่องจักรกลการเกษตร เครื่องใช้ไฟฟ้า และบริการตัดแต่งทรงผม ฟรี อีกด้วย