วันที่ 12 มกราคม 2568
นายธีรุตม์ ศุภวิบูลย์ผล ผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานี ลงพื้นที่ หมู่ที่ 1 บ้านพอด ตำบลชลคราม อำเภอดอนสัก จังหวัดสุราษฎร์ธานี เพื่อติดตามผลกระทบและความเสียหายจากภาวะคลื่นลมแรงซัดเข้าหาฝั่ง และน้ำทะเลหนุนสูง โดยมี นายบุญเรือง หลงละลวด หัวหน้าสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดสุราษฎร์ธานี นายเลอพงศ์ สวนสังข์ นายอำเภอดอนสัก ปลัดอำเภอ ผู้นำท้องที่ท้องถิ่น ร่วมลงพื้นที่
พื้นที่ดังกล่าว ได้รับผลกระทบค่อนข้างมาก เนื่องจากเป็นพื้นที่รับลมมรสุม ระยะทางประมาณ 2 กิโลเมตรเศษ ในช่วงเดือนพฤศจิกายน - มกราคมของทุกปี แต่ปีนี้คลื่นลมค่อนข้างแรงกว่าทุกปีและมีน้ำทะเลหนุน ทำให้บ้านเรือนและร้านอาหาร ที่ตั้งอยู่ริมเขื่อนกันคลื่น ได้รับความเสียหายบางส่วน และมีน้ำทะเลล้นข้ามถนนเข้าบ้านเรือนประชาชนเล็กน้อย ก่อนจะลดระดับลงในเวลาต่อมา โดยอำเภอดอนสัก ได้จัดเตรียมพื้นที่อพยพไว้ที่วัดนทีวัฒนาราม กรณีที่สถานการณ์รุนแรงขึ้น โดยผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานี ได้เดินเยี่ยมพบปะประชาชนตามบ้านเรือนตลอดแนวชายฝั่ง พร้อมกับ มอบถุงยังชีพให้กับผู้ได้รับผลกระทบ ทั้งยัง ได้ติดตามความคืบหน้าโครงการก่อสร้างเขื่อนป้องกันการกัดเซาะตลิ่ง ในพื้นที่ดังกล่าว ซึ่งอยู่ระหว่างการออกแบบ และขอรับจัดสรรงบประมาณ
จากนั้น ผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานี ได้ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมท่าเรือซีทรานส์เฟอร์รี่ และ ท่าเรือราชาเฟอร์รี่ เพื่อติดตามมาตรการความปลอดภัยการเดินเรือ ซึ่งพบว่าท่าเรือทั้ง 2 แห่ง มีประชาชนและนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ มารอขึ้นเรือเป็นจำนวนมาก เนื่องจากใกล้ถึง การจัดงานฟูลมูนปาร์ตี้ที่เกาะพะงัน และ ด้านนอกมีรถมาต่อคิวรอลงเรือเป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะรถขนส่งสินค้าขนาดใหญ่ ที่ลงเรือได้ล่าช้าเนื่องจากคลื่นลมและน้ำทะเลหนุนบริเวณท่าเรือ โดยผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานีได้เน้นย้ำ ให้ผู้ประกอบการเรือ ทั้ง 2 ราย ติดตามสภาพอากาศและคลื่นลมอย่างใกล้ชิด ใช้ความระมัดระวังในการเดินเรือ และตรวจสอบอุปกรณ์ฉุกเฉิน เสื้อชูชีพให้เพียงพอกับจำนวนผู้โดยสาร