วันที่ 16 ธันวาคม 2567
นายภาสกร บุญญลักษณ์ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เดินทางไปยังศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เขต 11 สุราษฎร์ธานี ประชุมส่วนราชการ หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อติดตามสถานการณ์อุทกภัยในพื้นที่จังหวัดสุราษฎร์ธานี ก่อนเดินทางไปยังศาลากลางจังหวัดสุราษฎร์ธานี ประชุมติดตามและประเมินสถานการณ์ร่วมกับนายธีรุตม์ ศุภวิบูลย์ผล รักษาราชการแทนผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานี ซึ่งรายงานว่า จากภาวะฝนตกหนักในหลายพื้นที่ ส่งผลให้ระดับน้ำในลำคลองล้นตลิ่งเข้าท่วมพื้นที่การเกษตร ถนน และบ้านเรือนราษฎร จำนวน 9 อำเภอ รวม 50 ตำบล 341 หมู่บ้าน ราษฎรได้รับผลกระทบ 14,319 ครัวเรือน 28,809 คน โดยคณะผู้บริหาร หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้ลงพื้นที่ให้ความช่วยเหลือและติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด พร้อมสั่งการให้อำเภอ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ช่วยเหลือประชาชนตามแผนเผชิญเหตุอุทกภัย วาตภัย และดินถล่ม พร้อมกับให้สำรวจความเสียหายของบ้านเรือนประชาชน และพื้นที่การเกษตรที่ได้รับผลกระทบเพื่อดำเนินการช่วยเหลือตามระเบียบราชการต่อไป ส่วนแนวโน้มสถานการณ์ในหลายพื้นที่ ยังมีฝนตกหนักต่อเนื่อง ทำให้ระดับน้ำเพิ่มขึ้นในอำเภอกาญจนดิษฐ์ ท่าฉาง ท่าชนะ และอำเภอไชยา นอกจากนี้ยังได้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก ในพื้นที่อำเภอนาสาร เวียงสระ และอำเภอพุนพิน ซึ่งคาดว่าหากฝนไม่หยุดตก สถานการณ์อุทกภัยจะรุนแรงและขยายวกว้างขึ้น จากนั้น
นายธีรุตม์ ศุภวิบูลย์ผล รักษาราชการแทนผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานี และนายนันธวัช เจริญวรรณ รองผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานี ลงพื้นที่เยี่ยมเยียน ให้กำลังใจ และมอบสิ่งของถุงยังชีพ เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของราษฎรผู้ประสบภัยน้ำท่วม ณ บ้านหนองเปล หมู่ 9 ตำบลพลายวาส อำเพอกาญจนดิษฐ์ โดยนายธีรุตม์ ศุภวิบูลย์ผล รักษาราชการแทนผู้ว่าราชการจังหวัดฯ ได้สั่งการให้อำเภอ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ดำเนินการแจ้งเตือนประชาชนที่อาศัอยู่ในพื้นที่เสี่ยงภัย ที่ราบลุ่ม/ที่ลาดเชิงเขา ใกล้ทางน้ำไหลผ่าน ให้ระมัดระวังอุทกภัยจากปริมาณฝนที่เพิ่มมากขึ้น และปริมาณน้ำสะสมที่อาจเป็นเหตุให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก ดินถล่ม และน้ำล้นตลิ่งในระยะนี้อย่างใกล้ชิด.