วันนี้ 14 มิถุนายน 2567 เวลา 08.30 น. ณ ห้องประชุมตาปี ศาลากลางจังหวัดสุราษฎร์ธานี ชั้น 4
นายมนตรา พรมสินธุ รองผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานี ให้การต้อนรับนายทรงศัก สายเชื้อ ผู้ตรวจการแผ่นดิน พร้อมด้วยหม่อมหลวง ปุณฑริก สมิติ ที่ปรึกษาผู้ตรวจการแผ่นดิน นายทิฆัมพร ยะลา รองเลขาธิการสำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดิน นายสิริน ชาวเพ็ชรดี ผู้อำนวยการสำนักสอบสวน 3 และคณะ ได้ร่วมประชุมถกปัญหาและอุปสรรคร่วมกับกอ.รมน.ภาค 4 และหน่วยงานใน 5 จังหวัดภาคใต้ เพื่อหาแนวทางแก้ไขปัญหาการถือครองหรือครอบครองที่ดินหรืออสังหาริมทรัพย์โดยตัวแทนอำพรางของคนต่างด้าว (นอมินี) เร่งพัฒนากฎหมายให้ทันการณ์ ป้องปรามความเสียหายจากทุนต่างชาติ
นายทรงศัก สายเชื้อ ผู้ตรวจการแผ่นดิน เปิดเผยว่า จากการที่ผู้ตรวจการแผ่นดินกำลังศึกษาแสวงหาข้อเท็จจริงกรณีปัญหาการถือครองหรือครอบครองที่ดินหรืออสังหาริมทรัพย์โดยตัวแทนอำพรางของคนต่างด้าว (นอมินี) อันจะนำไปสู่การแก้ไขปัญหาเชิงระบบโดยการปรับปรุงกฎหมาย กฎ หรือคำสั่งที่เกี่ยวข้อง หรือการตรากฎหมายเกี่ยวกับตัวแทนอำพรางหรือนอมินีขึ้นมาเป็นการเฉพาะเพื่อสร้างมาตรการป้องกันและลงโทษให้สอดคล้องกับสถานการณ์ที่ประเทศเรากำลังเผชิญอยู่โดยเร็ว ซึ่งล่าสุดเมื่อวันที่ 13 มิถุนายนที่ผ่านมาได้ลงพื้นที่ ณ เกาะสมุย พบว่าบริเวณยอดเขาและเชิงเขาหลายจุด เต็มไปด้วยวิลล่าหรู บ้านพักปลูกสร้าง ส่วนใหญ่เป็นพื้นที่ครอบครองของชาวต่างชาติทั้งจีน เยอรมัน รัสเซีย ฝรั่งเศส ที่ดำเนินกิจกรรมในนามบริษัทนิติบุคคลโดยใช้ชื่อนอมินีชาวไทยมาเป็นหุ้นส่วนใหญ่ทำธุรกิจและอสังหาริมทรัพย์ แล้วปัญหาลักษณะนี้พบได้มากในกลุ่มจังหวัดภาคใต้ซึ่งมีภูมิประเทศที่สวยงามและแหล่งท่องเที่ยวสำคัญเป็นที่หมายตาของทุนต่างชาติ ในวันนี้จึงได้ประชุมระดมความคิดเห็นจากทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องโดยได้รับความร่วมมืออย่างดีจากนายมนตรา พรมสินธุ รองผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานี พลตรี ศุภชัย ปรีชามาตร รอง ผอ.รมน.ภาค 4 และคณะ รวมทั้งหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้แก่ สำนักงานที่ดินจังหวัด สำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัด สำนักงานโยธาธิการและผังเมืองจังหวัด สำนักงานพาณิชย์จังหวัด สำนักงานสรรพากรพื้นที่ สำนักงานเจ้าท่าภูมิภาค สำนักงานจังหวัด สถานีตำรวจภูธร และเทศบาล จากจังหวัดสุราษฎร์ธานี และอีก 4 จังหวัดภาคใต้ทั้งภูเก็ต พังงา กระบี่ และประจวบคีรีขันธ์ ที่ร่วมประชุมผ่านระบบ Zoom มาด้วย
ทั้งนี้แนวทางการแก้ไขปัญหานอมินีของผู้ตรวจการแผ่นดินขณะนี้ คือ การแก้ไขปัญหาในระยะสั้น หรือระยะเร่งด่วนเฉพาะหน้า รวมทั้งแก้ในระยะต่อไปท้้งระบบได้แก่ 1) วางแนวทางและหลักการในเรื่องนี้ โดยในระยะเร่งด่วนมุ่งหยุดการแพร่กระจาย (Freeze) การถือครองอสังหาริมทรัพย์โดยเร่งดำเนินคดีและใช้มาตรการในเชิงป้องปราม ในระยะต่อไป เร่งขยายกฎหมายให้ครอบคลุมกรณีอื่น ๆ ให้มากขึ้น ขณะเดียวกัน เสนอแนะให้มีการแก้ไขทั้งระบบทั้งการป้องกัน การติดตามการบังคับใช้กฎหมาย และการแก้ไขฎหมาย 2) มาตรการตรวจสอบและควบคุมถึงการลงทุนและการบริหารจัดการของคนต่างด้าวในรูปแบบของนิติบุคคลไทยที่เข้าถือครองที่ดิน 3) มาตรการควบคุมการจดทะเบียนนิติกรรมที่ดินหรืออสังหาริมทรัพย์ที่ถือครองโดยนิติบุคคลสัญชาติไทยที่มีคนคนต่างด้าวถือหุ้นหรือลงทุน 4) การบูรณาการร่วมกันทั้งในระดับนโยบายทั้งส่วนกลางและระดับพื้นที่จังหวัด เพื่อให้เป็นกลไกแบบบูรณการที่สำคัญในการดำเนินการเรื่องนี้อย่างเป็นระบบ 5) การสร้างแรงจูงใจในการเฝ้าระวังการกระทำผิดของคนต่างด้าว ให้แก่คนไทย 6) มาตรการกำหนดเขตที่ดิน (Zoning) แบบเฝ้าระวัง 7) การแก้ไขเพิ่มเติมบทบัญญัติในนิยามคำว่า “คนต่างด้าว” ให้ครอบคลุมถึงอำนาจในการบริหารจัดการเหนือนิติบุคคลของคนต่างด้าว และสิทธิในการออกเสียงลงคะแนนอำนาจในการบริหารจัดการการดำเนินการของนิติบุคคลนั้น 😎 ในการแก้ไขกฎหมายที่เกี่ยวข้องในเรื่องนี้แบ่งออกเป็น 2 ลักษณะ อย่างแรก คือ จะมีข้อเสนอแนะให้แก้ไขกฎหมายที่เกี่ยวข้องอย่างเร่งด่วนซึ่งมีอยู่หลายฉบับ และอีกลักษณะหนึ่ง คือ เสนอแนะให้มีการยกร่างกฎหมายกลางที่เกี่ยวกับตัวแทนอำพรางและการทำธุรกรรมอำพรางโดยเฉพาะ ซึ่งปัจจุบันยังไม่มีกฎหมายเฉพาะในเรื่องนี้” นายทรงศัก กล่าวปิดท้าย