Accessibility Tools

A A A

messenger  facebook  youtube

Google Translate Widget by Infofru

Author Site Reviewresults

สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงพระกรุณาโปรดพระราชทานเพลิงศพ พระมงคลทีปาจารย์ (จำรัส เขมธมฺโม) อดีตที่ปรึกษาเจ้าคณะจังหวัดสุราษฎร์ธานี อดีตเจ้าอาวาสวัดแจ้ง อำเภอเกาะสมุย

วันที่ 17 ธันวาคม พ.ศ. 2565 เวลา 15.00 น. ณ เมรุชั่วคราววัดแจ้ง ตำบลอ่างทอง อำเภอเกาะสมุย จังหวัดสุราษฎร์ธานี

        ด้วยพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงพระกรุณาโปรดพระราชทานเพลิงศพ พระมงคลทีปาจารย์ (จำรัส เขมธมฺโม) อดีตที่ปรึกษาเจ้าคณะจังหวัดสุราษฎร์ธานี อดีตเจ้าอาวาสวัดแจ้ง อำเภอเกาะสมุย ตามหมายรับสั่งที่ 16094 ลงวันที่ 18 ตุลาคม 2565 ในวันเสาร์ที่ 17 ธันวาคม 2565 เวลา 15.00 น. ณ เมรุชั่วคราววัดแจ้ง อำเภอเกาะสมุย จังหวัดสุราษฎร์ธานี
        ในการนี้ นายชูศักดิ์  รู้ยิ่ง รองผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานี เป็นประธานในพิธีพระราชทานเพลิงศพ พระมงคลทีปาจารย์ (จำรัส เขมธมฺโม) อดีตที่ปรึกษาเจ้าคณะจังหวัดสุราษฎร์ธานี อดีตเจ้าอาวาสวัดแจ้ง ตามวัน เวลา และสถานที่ดังกล่าว

การต้อนรับนักท่องเที่ยวที่เดินทางโดยเรือสำราญ Mein Schiff 5 ของกลุ่ม TUI Cruise หนึ่งในบริษัทท่องเที่ยวของยุโรป นำนักท่องเที่ยวชาวเยอรมัน 1,897 คน และลูกเรือ 917 คน เข้าจอดหน้าอ่าวหน้าทอน อำเภอเกาะสมุย

วันที่ 17 ธันวาคม พ.ศ. 2565 เวลา 07.00 น. ณ ท่าเทียบเรือหน้าทอน อำเภอเกาะสมุย  จังหวัดสุราษฎร์ธานี

        นายชูศักดิ์  รู้ยิ่ง รองผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานี ร่วมกับ คลังจังหวัดสุราษฎร์ธานี  นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดสุราษฎร์ธานี นายอำเภอเกาะสมุย  ผู้อำนวยการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สำนักงานเกาะสมุย รองผู้อำนวยการศูนย์อำนวยการรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเลจังหวัดสุราษฎร์ธานี รองนายกเทศมนตรีเกาะสมุย หัวหน้าส่วนราชการ ผู้แทนภาคเอกชน และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ร่วมให้การต้อนรับนักท่องเที่ยวที่เดินทางโดยเรือสำราญ Mein Schiff 5 ของกลุ่ม TUI Cruise หนึ่งในบริษัทท่องเที่ยวของยุโรป ซึ่งเรือสำราญ Mein Schiff 5 เป็นเรือสำราญขนาดใหญ่ลำที่ 2 จากยุโรปที่นำนักท่องเที่ยวชาวเยอรมัน 1,897 คน และลูกเรือ 917 คน เข้าจอดหน้าอ่าวหน้าทอน อำเภอเกาะสมุย ในลักษณะ One Day Trip ไปยังสถานที่ท่องเที่ยวต่าง ๆ บนเกาะสมุย ภายใต้แคมเปญ Samui Always Warm โดยเปิดโอกาสให้ท่องเที่ยวชุมชนมีส่วนร่วมในการต้อนรับให้บริการนักท่องเที่ยว เช่น สปา แหล่งช้อปปิ้ง การเลือกซื้อสินค้าพื้นเมือง การรับประทานอาหารพื้นถิ่น และของใช้ตามสไตล์นักท่องเที่ยว ซึ่งสามารถกระจายรายได้สู่ประชาชนในพื้นที่ครบทุกมิติ รวมถึงการสร้างภาพลักษณ์และความทรงจำให้กับนักท่องเที่ยวในมิติที่ดี และจะเป็นโอกาสสำคัญที่จะสร้างรายได้ต่อยอดไปสู่การต้อนรับเรือสำราญลำต่อๆไป
       ทั้งนี้ นักท่องเที่ยวลงจากเรือสำราญ Mein Schiff 5 มายังเรือไฮเวย์ที่รอให้บริการเพื่อเดินทางเข้าสู่ท่าเทียบเรือหน้าทอน โดยจะได้รับแผนที่และกระเป๋าผ้า Amazing Thailand และขนมกาละแมเป็นของที่ระลึก พร้อมรับชมการแสดงที่ให้เห็นถึงวิถีชีวิตของสาวสมุย อันเป็นการดึงจุดเด่นของความเป็นสาวชาวเกาะ ที่มีความสวยเข้ม ตามบุคลิกลักษณะของสาวภาคใต้ที่ผสมผสานกับศิลปะการแสดงพื้นบ้านมโนราห์ ถ่ายทอดออกมาเป็นผลงานการแสดงที่มีคุณค่าและสร้างสรรค์ สำหรับเรือสำราญ Mein Schiff 5 จะนำนักท่องเที่ยวออกเดินทางจากเกาะสมุย เพื่อไปยังท่าเรือแหลมฉบัง อำเภอศรีราชา จังหวัดชลบุรี ต่อไป

“รมว.ท่องเที่ยว” เปิดงาน “ไชยา มหานครศรีวิชัย” ที่สุราษฎร์ธานี สุดตระการตา บอกเล่าตำนานเมืองไชยาศูนย์กลางอาณาจักรศรีวิชัยในอดีต พร้อมระดมความร่วมมือต้อนรับนักท่องเที่ยว กระตุ้นให้เกิดการเดินทางท่องเที่ยว พัฒนาสู่การเป็นเมืองท่องเที่ยวที่มั่นคงและยั่งยืน

วันที่ 17 ธันวาคม 2565 บริเวณวัดพระบรมธาตุไชยาราชวรวิหาร ตำบลเวียง อำเภอไชยา จังหวัด สุราษฎร์ธานี นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา พร้อมด้วยดร.นาที รัชกิจประการ ประธานคณะที่ปรึกษารองนายกรัฐมนตรี (นายอนุทิน ชาญวีรกูล) , นายมนตรา พรมสินธุ รองผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานี นางสาวฐาปนีย์ เกียรติไพบูลย์ รองผู้ว่าการด้านตลาดในประเทศ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ร่วมกันเปิดงาน “ไชยา มหานครศรีวิชัย” โดยมี ผู้บริหาร หัวหน้าส่วนราชการ หน่วยงานพันธมิตร ตลอดจนประชาชนชาวสุราษฎร์ธานี และนักท่องเที่ยวร่วมเป็นสักขีพยานในพิธีเปิด อย่างอลังการน่าตื่นตื่นตาตื่นใจ พร้อมร่วมชมการแสดงแสงสีเสียงในระบบ Multi-Dimension สุดยิ่งใหญ่ จัดเต็มพลุดอกไม้ไฟ นำเสนอตำนานเมืองไชยาศูนย์กลางของอาณาจักรศรีวิชัยในอดีต พร้อมระดมทุกภาคส่วนสร้างการท่องเที่ยวที่ยั่งยืนสู่จังหวัดสุราษฎร์ธานี
นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา กล่าวว่า “กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา โดยการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ร่วมกับ หน่วยงานพันธมิตรทั้งภาครัฐและเอกชน จัดงาน “ไชยา มหานครศรีวิชัย” จากความร่วมมือร่วมใจกันของทุกภาคส่วน โดยมุ่งหวังให้การท่องเที่ยว เป็นกลไกสำคัญของการพลิกฟื้นเศรษฐกิจของจังหวัดสุราษฎร์ธานีและประเทศโดยรวม สอดคล้องกับนโยบาย “ฟื้นประเทศด้วยท่องเที่ยว” ของ กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา การจัดงานครั้งนี้สะท้อนเรื่องราวประวัติศาสตร์อันทรงคุณค่าของจังหวัดสุราษฎร์ธานี ศูนย์กลางแห่งความรุ่งเรืองนับพันปี ซึ่งเป็นที่ประดิษฐานของพระบรม- ธาตุไชยาอันศักดิ์สิทธิ์ เป็นศูนย์รวมจิตใจ และเป็นพุทธประติมากรรมที่วิจิตรงดงามของประเทศไทย นอกจากนี้จังหวัดสุราษฎร์ธานียังมีสิ่งดี ๆ ให้นักท่องเที่ยวได้มาสัมผัส เช่น ข้าวหอมไชยา ซึ่งเรียกกันว่า ข้าวหอมหมื่นลี้ ผ้าทอพุมเรียง ผัดหมี่ไชยา ไข่เค็มไชยา แหล่งท่องเที่ยวอีกมากมายที่พร้อมต้อนรับนักท่องเที่ยวที่ หวังเป็นอย่างยิ่งว่าการจัดงานในครั้งนี้จะกระตุ้นให้เกิดการเดินทางท่องเที่ยวนำไปสู่การสร้างเสริมเศรษฐกิจและกระจายรายได้ให้กับประชาชนในพื้นที่ เพื่อพัฒนาสู่การท่องเที่ยวที่มั่นคงและยั่งยืนต่อไป”
ด้านนายมนตรา พรมสินธุ รองผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานี กล่าวว่า “จังหวัดสุราษฎร์ธานีขอขอบคุณกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย รวมถึงหน่วยงานต่าง ๆ ที่ได้ทำให้เกิดงานนี้ขึ้น ตามแนวทางการฟื้นฟูเศรษฐกิจการท่องเที่ยวของจังหวัดสุราษฎร์ธานีให้พลิกฟื้นกลับมาและก้าวหน้าไปสู่อนาคตที่สดใสอย่างยั่งยืน ทั้งนี้ชาวสุราษฎร์ธานีเป็นคนมีน้ำใจไมตรี พร้อมแล้วที่จะต้อนรับนักท่องเที่ยวผู้มาเยือนทุกคน ด้วยความล้ำค่าของแผ่นดินโบราณที่เป็นศูนย์กลางของอาณาจักรศรีวิชัย มีสถาปัตยกรรม อารยธรรม ภูมิปัญญา และศิลปวัฒนธรรม ประเพณี โดยเฉพาะแหล่งโบราณคดีอันล้ำค่า คือ องค์พระบรมธาตุไชยาอันศักดิ์สิทธิ์”
นางสาวฐาปนีย์ เกียรติไพบูลย์ รองผู้ว่าการด้านตลาดในประเทศ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย กล่าวว่า “กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา โดย การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) มีนโยบายที่จะขับเคลื่อนให้ “การท่องเที่ยว” เป็นเครื่องมือในการพัฒนาคุณภาพชีวิต ของพี่น้องชาวไทย โดยเฉพาะผู้ประกอบการในอุตสาหกรรมท่องเที่ยว ชุมชนท่องเที่ยว ด้วยกลยุทธ์การกระตุ้นจำนวนนักท่องเที่ยวด้วยกลไกด้านการตลาด ควบคู่กับกลยุทธ์ การส่งเสริมการใช้จ่ายด้านการท่องเที่ยว ททท.จึงได้ร่วมกับหน่วยงานพันธมิตร จัดงาน “ไชยา มหานครศรีวิชัย” เพื่อประชาสัมพันธ์รูปแบบการท่องเที่ยวเชิงประวัติศาสตร์ วัฒนธรรรม และความเชื่อที่โดดเด่นเป็นเอกลักษณ์ของพี่น้องชาวจังหวัดสุราษฎร์ธานี ที่ได้รับการถ่ายทอดและสืบสานมาจากอาณาจักรโบราณศรีวิชัย พร้อมผลักดันให้จังหวัดสุราษฎร์ธานี” เป็นเมืองท่องเที่ยว ผ่านการออกแบบกิจกรรม ใน 5 รูปแบบ ได้แก่

  1. พิธีสมโภชผ้าห่มและพิธีแห่ผ้าห่มพระบรมธาตุไชยา เพื่อเสริมความเป็น สิริมงคลแก่นักท่องเที่ยว ตลอดทั้งผลักดันสู่การเป็นเทศกาล-งานประเพณีระดับประเทศต่อไป
  2. การจำลองแหล่งท่องเที่ยวอันเป็นเอกลักษณ์ของเมืองไชยา ทั้งพระบรมธาตุไชยาและมวย ไชยา เพื่อให้เป็นจุด Check-in สำหรับนักท่องเที่ยวในประประชาสัมพันธ์การจัดงานให้เป็นที่รู้จักในวงกว้าง
  3. การออกร้านจำหน่ายสินค้า อาหาร และการบริการทางด้านการท่องเที่ยว กว่า 50 ร้านค้าที่คัดสรรมาจาก อำเภอท่าชนะ อำเภอไชยา อำเภอท่าฉาง อำเภอวิภาวดี และอำเภอเมือง จังหวัดสุราษฎร์ธานี
  4. การแสดงแสงสีเสียง ชุด “ไชยา มหานครศรีวิชัย” โดยการนำเทคโนโลยีสร้างสรรค์ ผสมผสานศิลปะการแสดง พร้อมเทคนิคพิเศษพลุดอกไม้ไฟ นำเสนอประวัติศาสตร์ อารยธรรมอาณาจักรโบราณศรีวิชัย
  5. การแสดงศิลปวัฒนธรรมและการแสดงจากศิลปินดัง เพื่อสร้างความสุขสนุกสนาน และบรรยากาศการท่องเที่ยวในช่วงเทศกาลแห่งการเฉลิมฉลองส่งท้ายปีเก่า-ต้อนรับปีใหม่ เพื่อเป็นของขวัญให้แก่นักท่องเที่ยวทุกคน


ททท. คาดว่า การจัดงาน “ไชยา มหานครศรีวิชัย” ระหว่างวันที่ 16-18 ธันวาคม 2565 ในครั้งนี้ จะส่งเสริมให้บรรยากาศการเดินทำงของนักท่องเที่ยวชาวไทย ตลอดเดือนธันวาคมนี้ ไม่น้อยกว่า 95,000 คน-ครั้ง สร้างรายได้สู่อุตสาหกรรมท่องเที่ยวจังหวัดสุราษฎร์ธานีในช่วงฤดูกาลท่องเที่ยวได้ไม่น้อยกว่า 700 ล้านบาท”
การจัดงาน “ไชยา มหานครศรีวิชัย” สนับสนุนโดย กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา โดยการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ร่วมกับ จังหวัดสุราษฎร์ธานี , เทศบาลตำบลเวียง , วัดพระบรมธาตุไชยาราชวรวิหาร , บริษัท ไอ-อีเวนท์ จำกัด ทั้งนี้นักท่องเที่ยว และประชาชนที่สนใจ สามารถเข้าชมงานฟรีไม่เสียค่าใช้จ่าย ระหว่างวันที่ 16-18 ธันวาคม 2565 เวลา 16.00-22.00 น. ณ วัดพระบรมธาตุไชยาฯ อำเภอไชยา จังหวัดสุราษฎร์ธานี โดยมีศิลปินมาร่วมสร้างสีสันและความสุขภายในงาน เช่น ตุ๊กกี้ สุดารัตน์ , บ่าววี , วงฌามา , เบ็นซ์ จริยา , รัชนก ศรีโลพันธุ์ ตลอดทั้งการแสดงทางวัฒนธรรม รำวงเวียนครก การสาธิตมวยไชยา ฯลฯ รวมถึงร้านค้าร้านอาหารเด็ดที่นำเสนออัตลักษณ์ของสุราษฎร์ธานีอีกมากมาย

รองผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานี ประธานกรรมการกองทุนพัฒนาโรงไฟฟ้าเขื่อนรัชชประภา พร้อมด้วย คณะกรรมการฯ ร่วมโครงการพัฒนาศักยภาพคณะกรรมการพัฒนาชุมชนในพื้นที่โรงไฟฟ้า

วันที่ 15-16 ธันวาคม 2565

นายนันธวัช เจริญวรรณ รองผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานี ประธานกรรมการกองทุนพัฒนาโรงไฟฟ้าเขื่อนรัชชประภา พร้อมด้วย คณะกรรมการฯ ร่วมโครงการพัฒนาศักยภาพคณะกรรมการพัฒนาชุมชนในพื้นที่โรงไฟฟ้า โดยมีกิจกรรมศึกษาดูงานในพื้นที่จังหวัดแม่ฮ่องสอน-เชียงใหม่ ดังนี้

  1. บ้านสวนอคิราห์ เกษตรตามรอยพ่อ ศูนย์เรียนรู้โครงการอันเนี่องมาจากพระราชดำริ อำเภอปาย จังหวัดแม่ฮ่องสอน ซึ่งได้นำเอาหลักของการทำเกษตรทฤษฎีใหม่ พัฒนากสิกรรมสู่ระบบเศรษฐกิจพอเพียง รูปแบบโคกหนอง นา โมเดล เป็นแนวทางในการจัดการทรัพยากรระดับไร่นา คือ ที่ดินและน้ำเพื่อการเกษตรในดินขนาดเล็กให้เกิดประโยชน์สูงสุด โดยมีเป้าหมายเป็นการค้าเกษตรอินทรีย์ เป็นศูนย์เรียนรู้เทือถ่ายทอดองค์ความรู้ด้านต่างๆ ให้กับประชาชนในพื้นที่ๆ และผู้ที่สนใจทั่วไปตลอดจนถึงเป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงเกษตร จำหน่ายสินค้า OTOP และค้าของวิสาหกิจชุมชน เปิดบริการให้กับนักท่องเที่ยวชาวไทยและชาวต่างชาติ ซึ่งได้รับรางวัลชนะเลิศ "ศูนย์เรียนรู้โครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ ต้นแบบปี 2564”
  2. ศูนย์พัฒนาโครงการหลวงแม่สาใหม่ อำเภอแม่ริม จังหวัดเชียงใหม่ ศูนย์พัฒนาโครงการหลวงแม่สาใหม่ การดำเนินงาน งานส่งเสริมส่งเสริมการปลูกพืชผัก ไม้ผล ภายใต้ระบบมาตรฐานอาหาร ลอย ได้แก่ ระบบการเพาะปลูก ดี (GAP) สร้างรายได้ที่มั่นคงและความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นแก่เกษตรกร นอกจากนี้ยัง


สนับสนุนและส่งเสริมกระบวนการ มีส่วนร่วมของชุมชน โดยการจัดกิจกรรมและพัฒนาด้าน การศึกษา สังคม สิ่งแวดล้อม และสาธารณสุข ส่งเสริมการอนุรักษ์งานหัตถกรรมชนเผ่า รวมทั้งส่งเสริมการปลูกป่าชาวบ้านตามแนวพระราชดำริ ป่า 3 อย่าง ประโยชน์ 4 อย่าง และศึกษางานวิจัยการทดสอบสายพันธุ์เปปิโนร่วมกับไม้ผลส่วนกลาง การทดสอบปุ๋ยระบบในสตรอว์เบอร์รีร่วมกับไม้ผลส่วนกลาง โดยมีผลผลิตหลัก คือ ผักกาดหอมห่อ ผักกาดขาวปลี ซาโยเต้ มะเขือเทศโครงการหลวง พริกหวาน มันฝรั่ง ผักกาด หางหงส์ ขึ้นฉ่าย แตงกวาญี่ปุ่น คอสสลัด กระหล่ำปลี แครอท แตงหอมตาข่าย ข้าวโพดหวาน สตรอเบอร์รี่ องุ่นดำไร้เม็ด มะเดื่อฝรั่ง เสาวรถ และอาโวคาโด ช่วยส่งเสริมให้ชาวบ้านและชนเผ่าต่างๆ ได้มีรายได้เพิ่มขึ้นจากการจำหน่ายสินค้า

Copyright © 2021  www.suratthani.go.th

AChecker accessibility checker compliance: WCAG 2.0 (Level AAA) Valid CSS!