Accessibility Tools

A A A

messenger  facebook  youtube

Google Translate Widget by Infofru

Author Site Reviewresults

สุราษฎร์ธานีขับเคลื่อนการดำเนินงานตามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือบทบาทในการเกื้อหนุนระหว่างวัดและชุมชนให้มีความสุขอย่างยั่งยืน

วันที่ 18 เมษายน 2566  เวลา 13.30 น.  ณ ศาลากลางจังหวัดสุราษฎร์ธานี

นายวิชวุทย์ จินโต ผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานี พร้อมด้วยนายบันดาล สถิรชวาล รองผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานี ผู้แทนคณะสงฆ์และหัวหน้าส่วนราชการตลอดจนผู้เกี่ยวข้อง ร่วมประชุมขับเคลื่อนการดำเนินงานตามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือบทบาทในการเกื้อหนุนระหว่างวัดและชุมชนให้มีความสุขอย่างยั่งยืน ผ่านระบบ ZOOM โดยประชุมร่วมกับส่วนกลางและจังหวัดต่างๆ ทั่วประเทศ เพื่อรับทราบแนวทางการดำเนินงานในระดับพื้นที่ ในการขับเคลื่อนตามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ 3 ฝ่าย โดยการนำหลักการ "บวร" ไปขับเคลื่อนการดำเนินงานแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนให้พี่น้องประชาชนในพื้นที่ ประกอบด้วยกิจกรรมต่าง ๆ อาทิ กิจกรรม 1 ตำบล 1 ถนสายวัฒนธรรม กิจกรรมพลัง "บวร" จิตอาสาพัฒนาวัดและชุมชน และกิจกรรม 1 ตำบล 1 วัด 1 คลังยาและอาหาร


ทั้งนี้กระทรวงมหาดไทย ได้ลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ บทบาทในการเกื้อหนุนระหว่างวัดและชุมชนให้มีความสุขอย่างยั่งยืน ระหว่างฝ่ายสาธารณสงเคราะห์ ของมหาเถรสมาคม และสถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง เมื่อวันที่ 24 กุมภาพันธ์ 2565 ณ พระอุโบสถวัดพระเชตุพนวิมลมังคลาราม ราชวรมหาวิหาร โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อให้เกิดการบูรณาการความร่วมมือระหว่างฝ่ายสาธารณสงเคราะห์ของมหาเถรสมาคม กระทรวงมหาดไทย และสถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง ในการกำหนดพื้นที่และเป้าหมายการพัฒนาของชุมชน ร่วมกันสร้างพื้นที่ต้นแบบและพัฒนาคุณภาพชีวิตตามหลักทฤษฎีใหม่ประยุกต์สู่เขตพัฒนาเศรษฐกิจพอเพียง พร้อมทั้งขับเคลื่อนและช่วยเหลือสังคมให้เกิดความสุขอย่างยั่งยืน โดยมีจังหวัดอุบลราชธานีเป็นต้นแบบการขยายผลการขับเคลื่อนการดำเนินงานให้จังหวัดอื่นนำไปปฏิบัติ

สำหรับบันทึกข้อตกลงความร่วมมือบทบาทในการเกื้อหนุนระหว่างวัดและชุมชนให้มีความสุขอย่างยั่งยืน มีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริมและฟื้นฟูภูมิปัญญาในเรื่องการหาเลี้ยงชีพที่ตรงกับหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง และทฤษฎีใหม่ของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร มาประยุกต์สู่ “เขตพัฒนาเศรษฐกิจพอเพียง” ไปสร้างคุณภาพชีวิตของประชาชนให้มีความสุขอย่างยั่งยืน และเพื่อเชื่อมประสานความร่วมมือของวัด ชุมชน โรงเรียน และส่วนราชการ สู่การพึ่งพาตนเองอย่างเข้มแข็ง และช่วยเหลือเกื้อกูลกันตามความเหมาะสมของแต่ละท้องถิ่น รวมทั้งเพื่อร่วมมือกันระหว่างคณะสงฆ์ข้าราชการ ผู้บริหารองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน อาสาสมัครทุกภาคีเครือข่ายในการพัฒนาสังคม ชุมชน ให้มีความสุขร่มเย็นและขับเคลื่อนช่วยเหลือสังคม เพื่อให้คนไทยมีความสุขกาย สุขใจเพิ่มมากขึ้นและยั่งยืน.

ผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานี พร้อมด้วยส่วนราชการ ร่วมส่งมอบ อินทผลัม แก่มัสยิด 52 แห่งทั่วจังหวัดสุราษฎร์ธานี เพื่อแจกจ่ายให้พี่น้องชาวมุสลิมใช้ละศีลอด ในเดือนรอมฎอน อันศักดิ์สิทธิ์ สานสัมพันธ์พหุวัฒนธรรม

วันที่ 18 เมษายน 2566  ณ มัสยิดยาเมี๊ยะอ์ ตำบลท่าทองใหม่ อำเภอกาญจนดิษฐ์ จังหวัด สุราษฎร์ธานี

นายวิชวุทย์ จินโต ผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานี เป็นประธานส่งมอบ อินทผลัม จำนวน 52 ลัง ให้กับ นายสมนึก เหมประพันธ์ ประธานคณะกรรมการอิสลามประจำจังหวัดสุราษฎร์ธานี ตลอดจน อิหม่าม คอเต็บ บิหลั่น และคณะกรรมการอิสลามประจำจังหวัด เพื่อนำไปแจกจ่ายให้กับชาวมุสลิม เพื่อใช้ในการประกอบศาสนกิจละศีลอด ยัง 52 มัสยิด ทั่วจังหวัดสุราษฎร์ธานี ในเดือนรอมฎอน ระหว่างวันที่ 23 มีนาคม ถึงประมาณวันที่ 20 เมษายน 2566 โดยมี นายพูลศักดิ์ โสภณปทุมรักษ์ นายอำเภอกาญจนดิษฐ์ นายบุญเรือง หลงละลวด หัวหน้าป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดสุราษฎร์ธานี จ่าเอกพิรพร อุลิตผล วัฒนธรรมจังหวัดสุราษฎร์ธานี ส่วนราชการ ผู้นำท้องถิ่น ร่วมส่งมอบอินทผลัม อีกจำนวนหนึ่ง เพื่อส่งความระลึกถึงและความปรารถนาดีมายังชาวมุสลิมด้วยความจริงใจ ตลอดช่วงเดือนรอมฎอน ประจำปีฮิจเราะห์ศักราช 1444
ผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานี กล่าวว่า เดือนรอมฏอนถือได้ว่าเป็นเดือนที่แสนอันประเสริฐของพี่น้องชาวมุสลิม ในการปฏิบัติศาสนกิจถือศีลอดที่มีเพียงปีละครั้ง ซึ่งมีความสำคัญต่อพี่น้องมุสลิม เนื่องจากเดือนรอมฎอน เป็นเดือนที่พระผู้เป็นเจ้าทรงประทานคัมภีร์อัลกุรอาน อีกทั้งเป็นเดือนแห่งความเชื่อมั่นที่พี่น้องมุสลิมจะปฏิบัติตามศาสดามูหะมัด อย่างเต็มความสามารถด้วยจิตใจที่แน่วแน่มั่นคง รวมทั้งไม่เข้าไปเกี่ยวข้องกับสิ่งต้องห้ามตามบทบัญญัติ โดยการถือศีลอดถือเป็นการฝึกความอดทน อันนำไปสู่ความเข้มแข็ง ทั้งทางร่างกายและจิตใจทำ และเป็นการขัดเกลาจิตใจให้บริสุทธิ์อย่างแท้จริง อีกทั้งเพื่อเป็นการสานสัมพันธ์อันดี และการอยู่ร่วมกันอย่างสันติสุขในสังคมพหุวัฒนธรรม


ข่าว/ภาพ – ส.ปชส.สุราษฎร์ธานี

การประชุมคณะอนุกรรมการพิจารณาอนุญาตให้ดูดทรายประจำจังหวัดสุราษฎร์ธานี ครั้งที่ 2/2566 พร้อมด้วยคณะอนุกรรมการฯลงพื้นที่ตรวจสถานที่และประชุมพิจารณาการขออนุญาตดูดทรายในที่ดินของรัฐ

วันที่ 18 เมษายน พ.ศ. 2566 เวลา 11.00 น.

นายมนตรา พรมสินธุ รองผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานี เป็นประธานการประชุมคณะอนุกรรมการพิจารณาอนุญาตให้ดูดทรายประจำจังหวัดสุราษฎร์ธานี ครั้งที่ 2/2566 พร้อมด้วยคณะอนุกรรมการฯลงพื้นที่ตรวจสถานที่และประชุมพิจารณาการขออนุญาตดูดทรายในที่ดินของรัฐ กรณีนายฐาปนา จริยพงศ์ ยื่นขออนุญาตประกอบกิจการในที่ดินของรัฐโดยจะทำการดูดทรายในแม่น้ำตาปี เพื่อประโยชน์ในการค้าหากำไร เป็นระยะเวลา 1 ปี โดยที่ดินของรัฐที่ยื่นขออนุญาตตั้งอยู่หมู่ที่ 7 ตำบลอิปัน อำเภอพระแสง จังหวัดสุราษฎร์ธานี เนื้อที่ 2-3-76 ไร่

ผู้ว่าราชการจังหวัดฯ ประชุมสรุปผลการดำเนินงานศูนย์ปฏิบัติการร่วมป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนน ทางน้ำ และทางอากาศ ช่วงเทศกาลสงกรานต์ 2566 ขอบคุณเจ้าหน้าที่ทุกภาคส่วน ที่ทำงานอย่างเต็มที่ ย้ำ การป้องกันและลดอุบัติเหตุ ต้องเดินหน้าต่อ ไม่จบตามเทศกาล

วันที่ 18 เมษายน 2566  เวลา 9.30 น. ณ ศาลากลางจังหวัดสุราษฎร์ธานี

นายวิชวุทย์ จินโต ผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานี ประชุมสรุปผลการดำเนินงานศูนย์ปฏิบัติการร่วมป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนน ทางน้ำ และทางอากาศ ช่วงเทศกาลสงกรานต์ 2566 จังหวัดสุราษฎร์ธานี โดยมี นายบุญเรือง หลงละลวด หัวหน้าสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดสุราษฎร์ธานี ผู้แทนส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง ร่วมประชุม โดยช่วงแรกเป็นการร่วมประชุมผ่านระบบคอนเฟอร์เร้น ร่วมกับ ศูนย์ปฏิบัติการร่วมฯ ที่กระทรวงมหาดไทย เพื่อสรุปภาพรวมระดับประเทศ และรับนโยบายจากส่วนกลาง ตลอดจน ถอดบทเรียนเพื่อนำมาปรับใช้ในแต่ละพื้นที่
จากนั้น ผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานี ได้หารือ ร่วมกับที่ประชุม เพื่อวิเคราะห์สาเหตุของอุบัติเหตุ และผู้เสียชีวิต ตลอดช่วงรณรงค์สัญจรปลอดภัย ตั้งแต่วันที่ 11-17 เมษายน 2566 ซึ่งจังหวัดสุราษฎร์ธานี เกิดอุบัติเหตุรวม 60 ครั้ง บาดเจ็บ 61 คน เสียชีวิต 7 คน อยู่ในเกณฑ์ลดลงร้อยละ 5 จากค่าเฉลี่ยย้อนหลัง 3 ปี ยกเว้นจำนวนผู้เสียชีวิตที่มากกว่า เกณฑ์ที่ตั้งไว้ 2 ราย โดย รถจักรยานยนต์ เป็นยานพาหนะที่เกิดอุบัติเหตุมากที่สุด สาเหตุหลักของอุบัติเหตุ คือ การขับรถเร็วเกินกำหนด รองลงมาคือ ทัศนะวิสัยไม่ดี และตัดหน้ากระชั้นชิด ตามลำดับ ส่วนสาเหตุการบาดเจ็บและเสียชีวิตจากอุบัติเหตุ อันดับ 1 คือ การไม่สวมหมวกนิรภัย ขณะที่อำเภอที่เกิดอุบัติเหตุมากที่สุด ได้แก่ อำเภอบ้านนาสาร และอำเภอเมืองสุราษฎร์ธานี รวม 7 ครั้ง อำเภอที่มีผู้เสียชีวิตมากที่สุด คือ อำเภอเกาะสมุย 2 ราย ส่วนอำเภอที่ไม่เกิดอุบัติเหตุ คือ อำเภอเคียนซา และ อำเภอดอนสัก
ผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานี ได้ขอบคุณเจ้าหน้าที่ทุกภาคส่วน ที่ได้ปฏิบัติหน้าที่อย่างเข้มแข็ง ตลอดช่วงเทศกาลสงกรานต์ ปีนี้ แต่ได้เน้นย้ำว่า การป้องกันและลดอุบัติเหตุโดยเฉพาะ ทางถนน ยังคงต้องทำงานหนักกันต่อไป ทั้งการรณรงค์สร้างความตระหนักถึงอันตรายและผลกระทบจากอุบัติเหตุ เพราะสถิติจากเทศกาลสงกรานต์ทำให้เห็นว่า ยังมีประชาชนที่ใช้รถจักรยานยนต์อีกจำนวนมาก ที่ไม่สวมหมวกนิรภัย ซึ่งหากเกิดอุบัติเหตุ จะทำให้บาดเจ็บรุนแรง ถึงขั้นเสียชีวิตได้ และผู้ที่ได้รับผลกระทบมากที่สุด คือ ครอบครัว รวมถึง ปัญหาเมาแล้วขับ ที่มีสถิติการจับกุมสูงขึ้น จึงยังต้องบังคับใช้กฎหมายอย่างเข้มงวดต่อไป

Copyright © 2021  www.suratthani.go.th

AChecker accessibility checker compliance: WCAG 2.0 (Level AAA) Valid CSS!