Accessibility Tools

A A A

messenger  facebook  youtube

Google Translate Widget by Infofru

Author Site Reviewresults

รองผู้ว่าราชการจังหวัดฯ ลงพื้นที่ตรวจสถานที่ขออนุญาตสิ่งปลูกสร้างร่วมล้ำลำน้ำในเขตจังหวัดสุราษฎร์ธานี จำนวน 7 แห่ง

วันที่ 16 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2566 เวลา 10.30 น. ณ พื้นที่อำเภอบ้านตาขุน อำเภอเวียงสระ อำเภอพุนพิน และอำเภอเมืองสุราษฎร์ธานี

         นายชูศักดิ์  รู้ยิ่ง รองผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานี ในฐานะประธานคณะกรรมการพิจารณาการขออนุญาตปลูกสร้างสิ่งล่วงล้ำลำน้ำในเขตจังหวัดสุราษฎร์ธานี นำคณะกรรมการฯ ลงพื้นที่ตรวจสถานที่ขออนุญาตสิ่งปลูกสร้างร่วมล้ำลำน้ำในเขตจังหวัดสุราษฎร์ธานี จำนวน 7 แห่ง ในพื้นที่อำเภอบ้านตาขุน อำเภอเวียงสระ อำเภอพุนพิน และอำเภอเมืองสุราษฎร์ธานี ได้แก่ สถานที่ที่ขออนุญาตก่อสร้างสะพาน คสล. จำนวน 2 แห่ง สถานที่ที่ขออนุญาตก่อสร้างเขื่อนป้องกันตลิ่งริมฝั่ง จำนวน 3 แห่ง สถานที่ที่ขออนุญาตก่อสร้างกระชังเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำ จำนวน 1 แห่ง และสถานที่ที่ขออนุญาตก่อสร้างท่าเทียบเรือขนาดไม่เกิน 20 ตันกรอส จำนวน 1 แห่ง ทั้งนี้ คณะกรรมการฯ จะร่วมประชุมพิจารณาให้ความเห็นเบื้องต้นว่า การใช้อาคารหรือสิ่งอื่นใดที่ขออนุญาตปลูกสร้างล่วงล้ำลำน้ำตั้งอยู่ไม่เป็นอุปสรรคต่อแผนพัฒนาจังหวัด ผังเมืองรวมของจังหวัด และการรักษาสภาพแวดล้อมของจังหวัด ในวันจันทร์ ที่ 20 กุมภาพันธ์ 2566 ต่อไป โดยมี ว่าที่ร้อยโท สมชาย เรืองจันทร์ ปลัดจังหวัดสุราษฎร์ธานี คณะกรรมการฯ และผู้แทนส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง ร่วมลงพื้นที่

ข้าราชการ หน่วยงานรัฐวิสาหกิจ พ่อค้าประชาชนจังหวัดสุราษฎร์ธานี ร่วมประกาศสดุดีวีรกรรมเนื่องในวันคล้ายวันสิ้นพระชนม์ครบรอบปีที่ 46 ปี พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าวิภาวดีรังสิต

วันที่ 16 กุมภาพันธ์ 2566

นายวิชวุทย์ จินโต ผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานี เป็นประธานในพิธีประกาศสดุดีวีรกรรมเนื่องในวันคล้ายวันสิ้นพระชนม์ครบรอบปีที่ 46 ปี พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าวิภาวดีรังสิต ที่จัดขึ้น ณ พระอนุสาวรีย์พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าวิภาวดีรังสิต โรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราชเวียงสระ อ.เวียงสระ จ.สุราษฎร์ธานี โดยหม่อมราชวงศ์ปรียนันทนา รังสิต ธิดาพระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าวิภาวดีรังสิต ได้เข้าร่วมพิธีในครั้งนี้พร้อมกับหน่วยงานจากภาครัฐ เอกชน พ่อค้า ประชาชน และกลุ่มองค์กรต่างๆ ในพื้นที่

ซึ่งวันนี้นับเป็นปีที่ 46 ที่ชาวสุราษฎร์ธานี เรียกขานว่า "วันวิภาวดีรังสิต" เนื่องจากเป็นวันคล้ายวันสิ้นพระชนม์ของพระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าวิภาวดีรังสิต จึงเป็นอีกวาระหนึ่งที่ทุกภาคส่วนได้มาชุมนุมกัน เพื่อประกอบพิธีอันศักดิ์สิทธิ์ บำเพ็ญกิจถวายแด่พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าวิภาวดีรังสิต เพื่อน้อมรำลึกถึงพระมหากรุณา เทิดทูนพระเกียรติ ที่พระองค์ทรงประกอบกรณียกิจ ให้เกิดประโยชน์สุขแก่ส่วนร่วม บังเกิดผลเพิ่มพูนวัฒนาถาวรแก่ประเทศชาติ

พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าวิภาวดีรังสิต ประสูติเมื่อวันที่ 20 พฤศจิกายน 2463 มีพระนามเดิมว่า "หม่อมเจ้าวิภาวดีรังสิต" เป็นธิดาในพระวรวงศ์เธอ กรมหมื่นพิทยาลงกรณ์ และหม่อมเจ้าพระพิมลพรรณรัชนี ทรงอภิเษกสมรสกับหม่อมเจ้าปียะรังสิต โอรสองค์ใหญ่ในพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระยาชัยนาทนเรนทร มีธิดาด้วยกัน 2 พระองค์ คือ หม่อมราชวงศ์วิภานันท์ รังสิต และหม่อมราชวงศ์ปรียนันทนา รังสิต โดยที่พระองค์ท่านได้ทรงประกอบพระกรณียกิจ อันเป็นคุณประโยชน์แก่มวลประชาชนชาวไทยอย่างอเนกอนันต์ จนกระทั่งสิ้นพระชนม์เมื่อวันที่ 16 กุมภาพันธ์ 2520 ในขณะที่ทรงปฏิบัติภารกิจตรวจเยี่ยมบำรุงขวัญตำรวจ ทหาร ที่ปฏิบัติหน้าที่ ในพื้นที่อำเภอเวียงสระ จังหวัดสุราษฎร์ธานี.

พิธีวางพวงมาลาถวายสักการะ เนื่องใน "วันวิภาวดีรังสิต" ประจำปี 2566 เพื่อสดุดีวีรกรรมและน้อมรำลึกถึงคุณูปการของพระเจ้าวรวงศ์เธอพระองค์เจ้าวิภาวดีรังสิต ที่มีต่อราษฎรในท้องที่อำเภอบ้านตาขุน อำเภอพนม และอำเภอคีรีรัฐนิคม

วันที่ 16 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2566 เวลา 09.00 น. ณ ลานพระอนุสาวรีย์พระเจ้าวรวงศ์เธอพระองค์เจ้าวิภาวดีรังสิต บริเวณจุดชมวิวเขื่อนรัชชประภา อำเภอบ้านตาขุน จังหวัดสุราษฎร์ธานี

         นายชูศักดิ์  รู้ยิ่ง รองผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานี เป็นประธานในพิธีวางพวงมาลาถวายสักการะ เนื่องใน "วันวิภาวดีรังสิต" ประจำปี 2566 เพื่อสดุดีวีรกรรมและน้อมรำลึกถึงคุณูปการของพระเจ้าวรวงศ์เธอพระองค์เจ้าวิภาวดีรังสิต ที่มีต่อราษฎรในท้องที่อำเภอบ้านตาขุน อำเภอพนม และอำเภอคีรีรัฐนิคม โดยมี นายวีรยุทธ ขนุนนิล นายอำเภอบ้านตาขุน นายสุเชาว์ ทูโมสิก นายอำเภอพนม นายเชาวลิต วิชิระประเสริฐ ผู้อำนวยการเขื่อนรัชชประภา หัวหน้าส่วนราชการ ผู้บริหารองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ภาคเอกชน นักเรียน นักศึกษา และประชาชน เข้าร่วมพิธีฯ
พระเจ้าวรวงศ์เธอพระองค์เจ้าวิภาวดีรังสิต ได้สิ้นพระชนม์ เมื่อวันที่ 16 กุมภาพันธ์ 2520 ในขณะที่ทรงปฏิบัติภารกิจตรวจเยี่ยมบำรุงขวัญตำรวจทหารที่ปฏิบัติหน้าที่ในพื้นที่อำเภอเวียงสระ จังหวัดสุราษฎร์ธานี ทรงทราบจากวิทยุว่าตำรวจตระเวนชายแดน (ตชด.) ได้รับบาดเจ็บจากการถูกกับระเบิด 2 คน ด้วยความที่ทรงห่วงใยผู้บาดเจ็บ จึงรับสั่งให้นักบินนำเฮลิคอปเตอร์ร่อนลงเพื่อรับผู้บาดเจ็บไปส่งโรงพยาบาล แต่ขณะที่นักบินนำเครื่องร่อนลงต่ำ กลุ่มผู้ก่อการร้ายได้ซุ่มระดมยิงจนเฮลิคอปเตอร์พระที่นั่งต้องลงจอดฉุกเฉิน เพราะเครื่องชำรุดบินต่อไม่ได้ ส่วนพระองค์เองถูกกระสุนปืนของผู้ก่อการร้ายจนได้รับบาดเจ็บสาหัส แม้ในวาระสุดท้ายแห่งพระชนม์ชีพ พระองค์หญิง ยังทรงห่วงใย ตชด.ผู้บาดเจ็บตลอดเวลา แม้จะมีเฮลิคอปเตอร์ลำใหม่มารับพระองค์ไปรักษาตัวต่อที่โรงพยาบาลสุราษฎร์ธานี แต่ก็ไม่ทันเวลา เพราะพระองค์สิ้นพระชนม์ บนเฮลิคอปเตอร์ระหว่างเดินทาง พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 9 จึงทรงมีพระบรมราชโองการให้สถาปนาหม่อมเจ้าวิภาวดีรังสิต เป็น “พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าวิภาวดีรังสิต” เมื่อวันที่ 4 เมษายน 2520 และพระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์มหาจักรีบรมราชวงศ์และประถมาภรณ์ช้างเผือก ขณะที่รัฐบาลได้ตั้งชื่อถนนซุปเปอร์ไฮเวย์จากดินแดงไปรังสิต ว่า “ถนนวิภาวดีรังสิต” เพื่อเป็นอนุสรณ์แด่พระองค์

การอบรมโครงการการช่วยฟื้นคืนชีพขั้นพื้นฐานและการใช้เครื่องกระตุกหัวใจไฟฟ้าอัตโนมัติ (CPR & AED) กิจกรรม Kick off CPR & AED @ เมืองคนดี

วันที่ 15 กุมภาพันธ์ 2566  เวลา 13.30 น.

นายบันดาล สถิรชวาล รองผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานี เป็นประธานพิธีเปิดการอบรมโครงการการช่วยฟื้นคืนชีพขั้นพื้นฐานและการใช้เครื่องกระตุกหัวใจไฟฟ้าอัตโนมัติ (CPR & AED) กิจกรรม Kick off CPR & AED @ เมืองคนดี ณ อาคารศูนย์กลางประชุมสมัมนาภาคใต้ตอนบน ศาลากลางจังหวัดสุราษฎร์ธานี โดยนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดสุราษฎร์ธานี รองนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดสุราษฎร์ธานี จิตอาสาพระราชทาน เจ้าหน้าที่สาธารณสุข ตำรวจ ทหาร และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมการอบรม

การอบรมดังกล่าว จัดขึ้นโดยสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดสุราษฎร์ธานี มีวัตถุประสงค์เพื่อ
สร้างความรู้ความเข้าใจในเบื้องต้นสำหรับการช่วยเหลือและการเพิ่มทักษะการใช้เครื่องกระตุกหัวใจไฟฟ้าอัตโนมัติ (CPR & AED) ที่ถูกต้องและทันท่วงทีให้แก่ผู้เข้าอบรม ให้สามารช่วยเหลือผู้ป่วยหรือผู้บาดเจ็บที่มีอาการหัวใจหยุดเต้นหรืออาการอื่นที่มีความผิดปกติของร่างกาย ให้สามารถส่งต่อผู้ป่วยหรือผู้บาดเจ็บไปยังแพทย์หรือสถานพยาบาลอย่างเหมาะสมอย่างรวดเร็วและถูกวิธี อันจะทำให้ผู้ป่วยหรือผู้บาดเจ็บได้มีโอกาสรอดชีวิตและกลับคืนมาใช้ชีวิตเป็นปกติได้มากยิ่งขึ้น

Copyright © 2021  www.suratthani.go.th

AChecker accessibility checker compliance: WCAG 2.0 (Level AAA) Valid CSS!