วันที่ 15 มกราคม 2567 เวลา 09.30 น. ณ ห้องประชุมนางยวน ชั้น 5 ศาลากลางจังหวัดสุราษฎร์ธานี

นายมนตรา พรมสินธุ รองผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานี เป็นประธานการประชุมคณะอนุกรรมการพิจารณากลั่นกรองและขับเคลื่อนแผนงาน /โครงการด้านทรัพยากรน้ำ ในเขตลุ่มน้ำภาคใต้ฝั่งตะวันออกตอนบน ครั้งที่ 1/2567  โดยมีคณะอนุกรรมการฯร่วมประชุม
การประชุมดังกล่าวเพื่อพิจารณา(ร่าง) แผนปฏิบัติการด้านทรัพยากรน้ำเพิ่มเติม ตามมติคณะกรรมการทรัพยากรน้ำแห่งชาติ ครั้งที่ 3/2566 เมื่อวันที่ 25 ธันวาคม 2566 โดยให้เสนอโครงการเพิ่มเติมผ่านระบบ Thai Water Plan ระหว่างวันที่ 26 ธันวาคม 2566 ถึง 2 มกราคม 2567
ซึ่งที่ประชุมได้เห็นชอบแผนปฏิบัติการด้านทรัพยากรน้ำ ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2568 เพิ่มเติม จำนวน 130 รายการ วงเงิน 1,702.5395 ล้านบาท และโครงการเพิ่มประสิทธิภาพการบริหารจัดการน้ำเพื่อรองรับสถานการณ์ภัยแล้งและฝนทิ้งช่วง ปี 2567 เพิ่มเติม จำนวน 124 รายการ วงเงิน 335.7924 ล้านบาท ทั้งนี้เพื่อนำข้อมูลเสนอคณะกรรมการลุ่มน้ำภาคใต้ฝั่งตะวันออกตอนบน พิจารณาต่อไป

วันที่ 5 มกราคม 2567

 นายเจษฎา จิตรัตน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานี ในฐานะ ประธานที่ปรึกษาคณะกรรมการเหล่ากาชาดจังหวัดสุราษฎร์ธานี พร้อมด้วย นางดาเรศ จิตรัตน์ นายกเหล่ากาชาดจังหวัดสุราษฎร์ธานี ประชุมเตรียมการจัดงานของดีเมืองสุราษฎร์และกาชาดจังหวัด ประจำปี 2567 ระหว่างวันที่ 12 – 21 มกราคม 2567 ณ บริเวณริมเขื่อนแม่น้ำตาปี อำเภอเมืองสุราษฎร์ธานี โดยมี รองผู้ว่าราชการจังหวัด หัวหน้าส่วนราชการ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และภาคเอกชน ร่วมประชุม ซึ่งครั้งนี้ ถือเป็นการประชุมใหญ่ครั้งสุดท้ายก่อนเปิดงานในสัปดาห์หน้า
ทั้งนี้ ที่ประชุมได้ติดตาม ภารกิจในความรับผิดชอบของคณะกรรมการฝ่ายต่างๆ เพื่อสรุปความพร้อม และหาแนวทางสนับสนุนหากมีปัญหาอุปสรรค โดยเฉพาะประเด็นการอำนวยความสะดวกด้านการจราจรแก่ประชาชนและนักท่องเที่ยวที่มาร่วมงาน ซึ่งเทศบาลนครสุราษฎร์ธานี ในฐานะเจ้าของสถานที่ ได้เร่งปรับพื้นที่เรือนจำเก่า ใกล้กับศาลากลางจังหวัดฯ เพื่อเป็นที่จอดรถ และมีบริการรถรับส่งฟรี หรือสามารถเรียกรถสาธารณะจากจุดดังกล่าวไปต่อได้ พร้อมทั้งได้เตรียมไฟแสงสว่างและเจ้าหน้าที่ ที่จะคอยอำนวยความสะดวกการจอดรถและเดินตรวจตราความปลอดภัยของทรัพย์สินประชาชน นอกจากนี้ โรงแรมวังใต้ ยังได้สนับสนุนลานข้างโรงแรมวังใต้ ให้จอดรถฟรีอีกด้วย
นายกเหล่ากาชาดจังหวัดสุราษฎร์ธานี ได้กล่าวขอบคุณทุกภาคส่วนที่ร่วมกันสนับสนุนเหล่ากาชาดจังหวัดสุราษฎร์ธานี ด้วยดีเสมอมา ทั้งในส่วนการของจำหน่ายสลากกาชาด ปี 2567 ที่กำหนดจัดพิมพ์ 6,000 เล่ม จำนวน 120,000 ใบ ในราคาใบละ 100 บาท ขณะนี้ เหลือไม่ถึง 1,000 เล่มแล้ว แต่ยืนยันว่า จะมีจำหน่ายภายในงานฯ ให้ประชาชนได้มีโอกาสลุ้นโชคใหญ่ ได้แก่ ทองคำแท่ง หนัก 30 บาท มูลค่ากว่า 1 ล้านบาท 1 รางวัล รถยนต์เก๋ง โตโยต้า ยาริส 1 คัน รถจักรยานยนต์ 5 คัน และยังมีรางวัลอื่นๆ เช่น สร้อยคอทองคำ 2 สลึง โทรทัศน์ ตู้เย็น เครื่องซักผ้า ไมโครเวฟ และเครื่องใช้ไฟฟ้าอื่นๆ อีกหลายรายการ ส่วนร้านนาวากาชาด ก็มีรางวัลจำนวนมากโดยเฉพาะ รถจักรยานยนต์ ที่ได้รับสนับสนุนมาแล้วมากกว่า 60 คัน หากเพียงพอ ก็จะเพิ่มรางวัลจากการแจกวันละ 5 คัน เป็นวันละ 6 คัน เพื่อมอบความสุขให้ประชาชนที่มาซื้อคูปองนาวากาชาด
นอกจากนี้ ภายในงาน ยังมีกิจกรรมพิเศษอื่นๆ มากมาย อาทิ การประกวดร้องเพลงไทยลูกทุ่งท้องที่และท้องถิ่น ประจำปี 2567 วันที่ 15 และ 17-19 มกราคม 2567 การเดินแบบผ้าไทยเพื่อการกุศลโดยนายแบบนางแบบกิตติศักดิ์ ในวันที่ 16 มกราคม การประกวดการแต่งกายดีเด่น ทุกคืน รวมถึงการแสดงทางวัฒนธรรมจากนักเรียนนักศึกษา ทุกคืน ณ เวทีกลาง โดยรายได้หลังหักค่าใช้จ่ายจะนำไปบรรเทาทุกข์บำรุงสุขแก่ประชาชนที่ประสบความเดือดร้อน ทั้งจากภัยธรรมชาติ อุบัติภัย รวมถึงเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจ ให้เกิดการจับจ่ายของประชาชนในพื้นที่

วันที่ 5 มกราคม 2567

นายบันดาล สถิรชวาล รองผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานี ประชุมเตรียมการนำเสนอสุราษฎร์ธานีขึ้นทะเบียนมรดกโลก ร่วมกับภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง ณ ห้องประชุมสำนักงานวัฒนธรรมจังหวัดสุราษฎร์ธานี เพื่อหารือแนวทางการขับเคลื่อนและเตรียมการนำเสนอสุราษฎร์ธานีขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลก และพิจารณาชื่อที่จะใช้ในการนำเสนอขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลก ซึ่งประกอบด้วย โบราณสถานเขาศรีวิชัยและเมืองโบราณไชยา โบราณสถานเขาศรีวิชัยและเมืองโบราณที่เกี่ยวข้อง โบราณสถานอ่าวบ้านดอน และโบราณสถานเขาศรีวิชัยที่ไชยา

ทั้งนี้ด้วยนายเจษฎา จิตรัตน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานี ได้มีนโยบายในการขับเคลื่อนการนำเสนอสุราษฎร์ธานีขึ้นเป็นมรดกโลก เพื่อเป็นการส่งเสริม คุ้มครอง และอนุรักษ์มรดกทางวัฒนธรรมและทางธรรมชาติที่ทรงคุณค่าและโดดเด่น ที่ได้รับจากอดีตและส่งต่อมรดกอันล้ำค่าสู่มวลมนุษยชาติในอนาคต โดยจังหวัดสุราษฎร์ธานี ได้ร่วมกับสำนักงานศิลปากรที่ 12 มหาวิทยาลัยราชภัฏสุราษฎร์ธานี และองค์กรภาคีเครือข่ายภาครัฐ ภาคเอกชน ดำเนินการสำรวจศักยภาพและคุณค่าเบื้องต้นของมรดกทางวัฒนธรรมของจังหวัดสุราษฎร์ธานี เพื่อจัดทำ Upstream process และกำหนดขอบเขตพื้นที่ส่วนขยายและการประชาสัมพันธ์การนำเสนอสุราษฎร์ธานีขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกด้านวัฒนธรรมต่อไป.