วันที่ 10 กรกฎาคม 2566 เวลา 13.30 น.  ณ ห้องประชุมสำนักงานสวัสดิการและคุ้มครองแรงงานจังหวัดสุราษฎร์ธานี 

นายบันดาล สถิรชวาล รองผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานี เป็นประธานการประชุมคณะอนุกรรมการสรรหาอนุกรรมการฝ่ายนายจ้าง และฝ่ายลูกจ้างในคณะอนุกรรมการพิจารณาอัตราค่าจ้างขั้นต่ำจังหวัดสุราษฎร์ธานี โดยมีภาครัฐและภาคเอกชนเข้าร่วมประชุม
การประชุมดังกล่าว มีวัตถุประสงค์เพื่อพิจารณาคัดเลือกผู้สมัครฝ่ายนายจ้าง จำนวน 5 คน และผู้สมัครฝ่ายลูกจ้าง จำนวน 5 คน เพื่อเป็นคณะอนุกรรมการพิจารณาอัตราค่าจ้างขั้นต่ำจังหวัดสุราษฎร์ธา ซึ่งคณะอนุกรรมการพิจารณาอัตราค่าจ้างขั้นต่ำจังหวัดสุราษฎร์ธานีมีหน้าที่ในการรับฟังข้อเท็จจริง เกี่ยวกับสภาพการทำงานในปัจจุบัน และรับฟังความคิดเห็นจากผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้อง ในการกำหนดอัตรา ค่าจ้างรายชั่วโมง เพื่อนำไปใช้ประกอบการกำหนดอัตราค่าจ้างรายชั่วโมงของคณะกรรมการค่าจ้างต่อไป

วันที่ 10 กรกฎาคม 2566

นายวิชวุทย์ จินโต ผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานี ลงพื้นที่ ตำบลคลองน้อย อำเภอเมือง จังหวัดสุราษฎร์ธานี แวะชมสวนกระท้อน สินค้าเกษตรคุณภาพของสุราษฎร์ธานี โดยกล่าวว่า ตำบลคลองน้อย เป็นพื้นที่ปลูกกระท้อนเป็นกลุ่มเกษตรแปลงใหญ่ ซึ่งที่ผ่านมาได้สร้างผลผลิตออกสู่ท้องตลาดโดยต่อเนื่องและกระท้อนที่ส่งถึงมือผู้บริโภคจะมีรสชาดอร่อยเป็นที่รู้จักกันดี การมาวันนี้เป็นการมาแวะให้กำลังใจเกษตรกร ที่ได้ดำเนินการผลิตของดีมีคุณภาพด้วยดีตลอดมา สร้างชื่อเสียงด้านผลิตเกษตรของสุราษฎร์ธานี โดยวันนี้ได้เข้ามาเยี่ยมสวนสวนของนายธวัชชัย ขวัญช่วย ม.6 ต.คลองน้อย อ.เมือง จ.สุราษฎร์ธานี

กระท้อนคลองน้อย ปลูกในสภาพพื้นที่เป็นที่ราบลุ่มติดแม่น้ำตาปี มีแม่น้ำและลำคลองล้อมรอบหลายสาย มีน้ำสำหรับการเกษตรตลอดปี มีสภาวะการขึ้นลงของน้ำตามอิทธิพลตามจันทรคติ ลักษณะดินเป็นดินตะกอนที่เกิดจากการพัดพาของน้ำ และตกตะกอนทับถมกันเป็นเวลานานจนเป็นดินร่วนปนเหนียว เนื้อละเอียด มีความสมบูรณ์ด้วยแร่ธาตุตามธรรมชาติ สภาพดินดี เป็นดินสองน้ำ (น้ำจืดผสมน้ำเค็ม) ส่งผลให้กระท้อนคลองน้อย มีผลใหญ่ เนื้อหนา แน่น ปุยนุ่ม ฟู เปลือกบาง ขาว หอม หวานอมเปรี้ยว รสชาติดี ทำให้กระท้อนคลองน้อยมีราคาสูงกว่ากระท้อนจากพื้นที่อื่นๆ ทำให้มีการแอบอ้างชื่อเพื่อจำหน่ายกระท้อนของพ่อค้าบางรายทำให้ผู้บริโภคเข้าใจผิด เกษตรกรผู้ปลูกกระท้อนในตำบลคลองน้อยจึงรวมกลุ่มกันเพื่อดูแล พัฒนาคุณภาพกระท้อน และรักษาชื่อเสียงของกระท้อนคลองน้อย ให้มีคุณภาพดียิ่งขึ้นและมีความเป็นอัตลักษณ์ เกษตรกร ผู้ปลูกกระท้อนจึงรวมกลุ่มกันจัดตั้งวิสาหกิจชุมชนพัฒนาคุณภาพกระท้อนคลองน้อย ในปี พ.ศ. 2562 หลังจากนั้นได้รับคำแนะนำและการส่งเสริมจากกรมส่งเสริมการเกษตร จัดตั้งเป็นกลุ่มแปลงใหญ่วิสาหกิจชุมชนพัฒนาคุณภาพกระท้อนคลองน้อย อำเภอเมือง จังหวัดสุราษฎร์ธานี ในปี พ.ศ. 2563 กลุ่มแปลงใหญ่วิสาหกิจชุมชนพัฒนาคุณภาพกระท้อนคลองน้อย อำเภอเมือง จังหวัดสุราษฎร์ธานี มีสมาชิก จำนวน 111 ราย พื้นที่ 214 ไร่ ผลผลิตเฉลี่ย 1,500 กก./ไร่/ปี ต้นทุนเฉลี่ย 28,500 บาท/ไร่/ปี รายได้เฉลี่ย 75,000 บาท/ไร่/ปี กระท้อนได้รับมาตรฐาน GAP ขณะนี้อยู่ระหว่างการขอการรับรองมาตรฐานสินค้า GI ซึ่งกระท้อนคลองน้อยมีการห่อผลทุกลูก ตอนนี้ กระท้อนคลองน้อยที่ออกสู่ตลาดจะเป็นกระท้อนพันธุ์ปุยฝ้าย เหรียญทอง ขันทอง อีจาน เขียวหวาน นิ่มนวล ส่วนกระท้อนพันธุ์อีล่า ที่มีชื่อเสียงที่สุด มีขนาดผลใหญ่ ปุยนุ่ม เนื้อฟู ขาว หวาน รสชาติดี ผลผลิตจะออกในช่วงปลายเดือนกรกฎาคมนี้ ประมาณ 200 ตัน

วันที่ 10 กรกฎาคม 2566 เวลา 10.00 น. ณ โรงแรมวังใต้ อำเภอเมืองสุราษฎร์ธานี

นายนันธวัช เจริญวรรณ รองผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานี พร้อมด้วย จ่าเอกพิรพร อุลิตผล วัฒนธรรมจังหวัดสุราษฎร์ธานี นางสาวนันทวัน ศิริโภคพัฒน์ ผู้อำนวยการ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สำนักงานสุราษฎร์ธานี ร่วมแถลงข่าว การจัดงานโครงการเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา 28 กรกฎาคม 2566 ภายใต้แนวคิด “สานศิลป์ แดนดินใต้ เทิดไท้องค์ราชัน” เพื่อเป็นการแสดงออกถึงความจงรักภักดีและส่งเสริมภูมิปัญญาทางวัฒนธรรมภาคใต้ กำหนดจัดขึ้นระหว่าง วันที่ 26-30 กรกฎาคม 2566 ณ สนามหน้าศาลากลางจังหวัดสุราษฎร์ธานี
​ โดยภายในงานจะมี การจัดแสดงนิทรรศการเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว นิทรรศการศิลปะร่วมสมัย การแสดงทางวัฒนธรรม 14 จังหวัดภาคใต้ ที่หมุนเวียนกันขึ้นแสดง ณ เวทีกลางทุกวัน การแสดงศิลปวัฒนธรรมของเด็กและเยาวชน การแสดงทางศิลปวัฒนธรรมโดยกรมศิลปากร การเดินแบบผ้าไทย 14 จังหวัดภาคใต้ การแสดงของศิลปิน รวมถึง การจัดจำหน่ายสินค้าผลิตภัณฑ์ทางวัฒนธรรม อาหาร หรือ CPOT 14 จังหวัดภาคใต้