วันที่ 13 กันยายน 2566

พลเรือเอก พงษ์เทพ หนูเทพ องคมนตรี ในฐานะประธานกรรมการบริหารมูลนิธิราชประชานุเคราะห์ ในพระบรมราชูปถัมภ์ และคณะ เดินทางไปตรวจเยี่ยมโรงเรียนราชประชานุเคราะห์ 12 อำเภอบ้านนาสาร จังหวัดสุราษฎร์ธานี เพื่อสนองพระบรมราโชบายพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร และพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ที่มีพระราชประสงค์ให้นักโรงเรียนราชประชานเคราะห์ทุกแห่ง มีความรู้ เป็นคนดี ทำประโยชน์ต่อสังคมส่วนรวม และสามารถมีอาชีพเลี้ยงดูตนเองได้ โดยมีนายวิชวุทย์ จินโต ผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานี และผู้เกี่ยวข้องร่วมให้การต้อนรับ

โอกาสนี้ องคมนตรี และคณะเยี่ยมชมผลงานนักเรียนด้านทักษะอาชีพ อาทิ หุ่นยนต์บังคับ การวาดภาพจากถ่าน การทำผ้ามัดย้อม การแกะสลักกระจก ผ้าลวดลายจากธรรมชาติ (Eco - Print) โดยในอนาคตจะสามารถหารายได้เข้าโรงเรียนได้ โดยส่วนใหญ่จำหน่ายผ่านช่องทางออนไลน์ เช่น เฟซบุ๊กของโรงเรียน และได้เป็นประธานในการมอบสิ่งของพระราชทาน ประกอบด้วย กระเป๋าเป้ จำนวน 263 ใบ ผ้าห่มนาโน 44 ผืน ผลิตภัณฑ์ล้างจาน 2 แกลลอน และหนังสือจำนวน 1 กล่อง

โดยโรงเรียนราชประชานุเคราะห์ 12 ตั้งอยู่หมู่ที่ 4 ต.พรุพี อ.บ้านนาสาร จ.สุราษฎร์ธานี มีเนื้อที่ 10 ไร่ 2 งาน 74 ตารางวา ก่อตั้งเมื่อปี พ.ศ.2482 เดิมชื่อว่า โรงเรียนวัดสุคนธาวาส ต่อมาในปี พ.ศ.2505 เกิดวาตภัยครั้งร้ายแรงที่แหลมตะลุมพุก สร้างความเสียหายให้กับประชาชนใน จ.นครศรีธรรมราช และส่งผลกระทบมายังโรงเรียนวัดสุคนธาวาส ด้วย และเมื่อปี พ.ศ.2506 พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร ได้ก่อตั้งมูลนิธิราชประชานุเคราะห์ ในพระบรมราชูปถัมภ์ เพื่อช่วยเหลือราษฎรที่ได้รับผลกระทบจากวาตภัยในครั้งนั้น และทรงรับโรงเรียนวัดสุคนธาวาสเข้ามาอยู่ในพระอุปถัมภ์ พระราชทานชื่อใหม่ว่า โรงเรียนราชประชานุเคราะห์ 12 และได้พระราชทานทรัพย์สินส่วนพระองค์เพื่อสร้างอาคารเรียน เรียกว่า อาคารพระราชทาน 009 ซึ่งเป็นอาคารที่เก่าแก่ โดยทางโรงเรียนได้อนุรักษ์ให้อยู่ในสภาพเดิมเป็นอย่างดี

ปัจจุบันโรงเรียนราชประชานุเคราะห์ 12 จัดการศึกษา 3 ระดับ ได้แก่ ระดับก่อนประถมศึกษา ระดับประถมศึกษา และมัธยมศึกษาตอนต้น มีนักเรียนทั้งสิ้น 263 คน มีครูและบุคลากร จำนวน 17 คน มีนายธีระพงษ์ อินทสโร เป็นผู้อำนวยการโรงเรียนฯ

วันที่ 13 กันยายน 2566  เวลา 09.00 น. ณ แม็คโคร สาขาเวียงสระ

นายมนตรา พรมสินธุ รองผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานี เป็นประธานในพิธีเปิด "แม็คโคร สาขาเวียงสระ " โดยมีนายสมโภช เรืองกูล ผู้จัดการทั่วไป แม็คโคร สาขาเวียงสระ นายณรงค์ หลักกำจร ประชาสัมพันธ์จังหวัดสุราษฎร์ธานี นายเจริญศักดิ์ วงศ์สุวรรณ นายอำเภอเวียงสระ หัวหน้าส่วนราชการ ผู้ประกอบการ ภาครัฐและภาคเอกชน เข้าร่วมในพิธี
บริษัท ซีพี แอ็กซ์ตร้า จำกัด (มหาชน) ผู้ดำเนินธุรกิจค้าส่งภายใต้แบรนด์ “แม็คโคร” และบริษัทย่อยค้าปลีก ภายใต้แบรนด์ “โลตัส” ที่มีกลุ่มลูกค้าเป้าหมายเป็นผู้ประกอบการร้านค้าปลีก หรือร้านโชห่วย ร้านอาหาร โรงแรม โรงเรียน และหน่วยงานต่างๆ ซึ่งตระหนักถึงความสำคัญของจังหวัดสุราษฎร์ธานี ที่มีการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจและการท่องเที่ยวอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้มีผู้ประกอบการธุรกิจร้านค้า ร้านอาหาร ภัตตาหารเป็นจำนวนมาก ทั้งนี้ผู้ประกอบการเหล่านี้มีความต้องการสินค้าอุปโภคบริโภคที่ครบครัน มีคุณภาพ ในราคาประหยัด เพื่อรองรับกับความต้องการของผู้บริโภคที่เพิ่มขึ้น บริษัทฯ จึงจะทำการเปิด “แม็คโคร สาขาเวียงสระ" เพื่อเป็นศูนย์จำหน่ายสินค้าอุปโภคบริโภคให้แก่ผู้ประกอบการในพื้นที่ และเพื่อสนับสนุนผู้ประกอบการของจังหวัดสุราษฎร์ธานี ให้สามารถแข่งขันได้ ลดต้นทุนในการดำเนินธุรกิจอย่างยั่งยืน ผ่านการสนับสนุนในรูปแบบต่างๆ
สำหรับการเปิด “แม็คโคร สาขาเวียงสระ” ครั้งนี้ บริษัทซีพี แอ็กซ์ตร้า จำกัด มีนโยบายการจ้างงานคนในท้องถิ่น สนับสนุนผู้ประกอบการเอสเอ็มอี และเกษตรกรในจังหวัด และการช่วยเหลือชุมชนผ่านกิจกรรมเพื่อสังคมที่บริษัทได้ดำเนินการอยู่เสมอ เพื่อให้ชุมชนมีความเข้มแข็ง และเศรษฐกิจของจังหวัดสุราษฎร์ธานีเจริญก้าวหน้ายิ่งขึ้นต่อไปอีก

วันที่ 12 กันยายน 2566 เวลา 13.30 น.  ณ ห้องประชุมสำนักงานวัฒนธรรมจังหวัดสุราษฎร์ธานี

นายบันดาล สถิรชวาล รองผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานี ประชุมคณะกรรมการจัดงานมหกรรมศีลธรรมเยาวชน ครั้งที่ 7 ประจำปี 2566  โดยมีหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมประชุม
การประชุมดังกล่าว มีวัตถุประสงค์เพื่อหารือแนวทางการจัดงานมหกรรมศีลธรรมเยาวชน ครั้งที่ 7 ให้เป็นไปด้วยความเรียบร้อยและบรรลุวัตถุประสงค์ของการจัดงาน ซึ่งกำหนดจัดขึ้นในระหว่างวันที่ 14 - 16 กันยายน 2566 ณ โรงเรียนอนุบาลขวัญยืน ตำบลดอนสัก อำเภอดอนสัก จังหวัดสุราษฎร์ธานี
ซึ่งกำหนดจัดขึ้นเพื่อสร้างโอกาสให้แก่ครู นักเรียน และ สถานศึกษา ได้แสดงออกซึ่งศักยภาพและสุนทรียภาพ ในกิจกรรมที่สร้างสรรค์ด้านวิชาการและพระพุทธศาสนาได้อย่างเต็มที่ และแลกเปลี่ยนเรียนรู้กระบวนการบริหารจัดการ จนเกิดความสำเร็จในด้านการส่งเสริมคุณธรรม จริยธรรม และเป็นการขยายผลการขับเคลื่อนแผนแม่บทส่งเสริมคุณธรรมของจังหวัดสุราษฎร์ธานี