Accessibility Tools

A A A

messenger  facebook  youtube

Google Translate Widget by Infofru

Author Site Reviewresults

รองผู้ว่าราชการจังหวัดฯ เป็นประธานในพิธีเปิดงาน "ธ สถิตในดวงใจ ตราบนิจนิรันดร์" ครั้งที่ 8


วันที่ 12 ตุลาคม 2568 เวลา 16.30น. ณ สุราษฎร์ธานีฮอลล์ ศูนย์การค้าเซ็นทรัลสุราษฎร์ธานี
นายวิทศักดิ์ จำเริญนุสิต รองผู้ว่าราชการจังหวัดฯ เป็นประธานในพิธีเปิดงาน "ธ สถิตในดวงใจ ตราบนิจนิรันดร์" ครั้งที่ 8 ซึ่งสมาคมเมโลเดียน จัดขึ้นเพื่อน้อมรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว และพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร
โดยงานดังกล่าวมีการประกวดกล่าวสุนทรพจน์ ประกวดขับร้องประสานเสียง ประกวดวาดภาพระบายสี ประกวดศิลปะการแสดงพื้นบ้านโนรา เพื่อชิงถ้วยประทานพระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าโสมสวลี กรมหมื่นสุทธนารีนาถ

จังหวัดสุราษฎร์ธานีร่วมกับองค์การบริหารส่วนจังหวัดสุราษฎร์ธานี มอบถ้วยรางวัลพระราชทาน สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ในงานชักพระทอดผ้าป่าและแข่งเรือยาวจังหวัดสุราษฎร์ธานี ประจำปี 2568

วันที่ 10 ตุลาคม 2568 ณ บริเวณสะพานนริศ ริมเขื่อนแม่น้ำตาปี อำเภอเมืองฯ จังหวัดสุราษฎร์ธานี
นายธีรุตม์ ศุภวิบูลย์ผล ผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานี เป็นประธานในพิธีมอบถ้วยรางวัลพระราชทาน สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ในงานชักพระทอดผ้าป่าและแข่งเรือยาวจังหวัดสุราษฎร์ธานี ประจำปี 2568 โดยมี ผู้พิพากษาหัวหน้าศาลจังหวัดสุราษฎร์ธานี นายวิทศักดิ์ จำเริญนุสิต รองผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานี สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดสุราษฎร์ธานี นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดสุราษฎร์ธานี นายกเทศมนตรีนครสุราษฎร์ธานี พร้อมด้วยข้าราชการ ภาครัฐภาคเอกชน และประชาชน เข้าร่วมพิธี
พิธีมอบ ถ้วยพระราชทานสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้ากรมสมเด็จพระเทพรัตน์ราชสุดาสยามบรมราชกุมารี ซึ่งทรงโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมพระราชทานถ้วยรางวัลให้กับผู้ชนะเลิศการประกวดแข่งขันงานประเพณีชักพระทอดผ้าป่าและแข่งเรือยาวประจำปี 2568 จำนวน 6 ถ้วย ซึ่งรางวัลชนะเลิศการประกวดเรือพนมพระทางบกประเภทสวยงามขนาดใหญ่ ได้แก่ วัดดอนยา รางวัลชนะเลิศการประกวดเรือพนมพระทางบกประเภทสวยงามขนาดเล็ก ได้แก่วัดศรีพนมพลาราม รางวัลชนะเลิศการประกวดเรือพนมพระทางบกประเภทความคิดสร้างสรรค์ ได้แก่ที่พักสงฆ์สวนเวฬุวัน รางวัลชนะเลิศการประกวดผ้าป่า ได้แก่นายอานนท์ หมื่นเส้ง รางวัลชนะเลิศการแข่งขันเรือยาวประเภท 20 - 22 ฝีพาย ได้แก่เรือทองประดู่ รางวัลชนะเลิศการแข่งขันเรือยาวประเภท 30 - 32 ฝีพาย ได้แก่เรือเพชรประดู่ นอกจากนี้ ยังมีการมอบโล่ประกาศเกียรติคุณแก่หน่วยงานและองค์กรต่างๆที่ให้การสนับสนุนการจัดงานอีกด้วย นอกจากนั้นมีการแสดงชุดพิเศษ ประกอบแสง สี สุดตระการตา สมการรอคอยของนักท่องเที่ยว และประชาชน

รองผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานี พร้อมหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เข้าร่วมประชุมขับเคลื่อนโครงการคนละครึ่ง พลัส ผ่านระบบ Video Conference

 

วันที่ 10 ตุลาคม 2568 เวลา 14.00น. ณ ห้องประชุมตาปี ชั้น 4 ศาลากลางจังหวัดสุราษฎร์ธานี

นายบันดาล สถิรชวาล รองผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานี พร้อมหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เข้าร่วมประชุมขับเคลื่อนโครงการคนละครึ่ง พลัส ผ่านระบบ Video Conference โดยมีนายชูชีพ พงษ์ไชย รองปลัดกระทรวงมหาดไทยด้านบริหาร เป็นประธานฯ
โครงการคนละครึ่ง พลัส เป็นโครงการตามนโยบายของรัฐบาล ภายใต้การนำของนายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย เพื่อลดรายจ่ายให้ประชาชนมีกำลังจับจ่ายใช้สอยมากขึ้น และสร้างรายได้แก่ร้านค้ารายย่อย นำไปสู่การกระตุ้นและพื้นฟูเศรษฐกิจไทย ซ่ภาครัฐจะร่วมจ่ายค่าสินค้าและบริการบางประเภทให้ประชาชนที่เข้าร่วมโครงการ โดยภาครัฐจ่าย 50% (ไม่เกิน 200 บาท/คน/วัน) โดยกำหนดวงเงินสิทธิ หากเป็นประชาชนผู้ยื่นแบบแสดงรายการภาษี จะได้รับ 2,400 บาท/คน และกรณีประชาชนผู้ไม่ยื่นแบบภาษี จะได้รับ 2,000 บาท/คน ในห้วงระยะเวลาใช้จ่ายในโครงการ ตั้งแต่ 29 ต.ค. 68 – 31 ธ.ค. 68
สำหรับการลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการ ประชาชนต้องลงทะเบียนผ่านแอปฯ เป๋าตัง โดยกดผ่านแบนเนอร์ของโครงการคนละครึ่ง พลัส เท่านั้น กำหนดลงทะเบียนตั้งแต่วันที่ 20 – 26 ต.ค. 68 เวลา 06.00 -22.00 น. ของทุกวัน จนกว่าจะครบจำนวนสิทธิ หรือครบวงเงินงบประมาณของโครงการ โดยการยืนยันผล หากเป็นประชาชนที่เคยใช้สิทธิโครงการคนละครึ่ง ระยะที่ 5 (ปี 2565) ลงทะเบียนผ่านแอปฯ เป๋าตัง จะมีแจ้งเตือนบนแอปฯ เป๋าตัง ทันที และหากเป็นประชาชนที่ไม่เคยใช้สิทธิโครงการคนละครึ่ง ระยะที่ 5 (ปี 2565) ลงทะเบียนผ่านแอปฯ เป๋าตัง จะได้รับ SMS และแจ้งเตือนบนแอปฯ เป๋าตัง ภายใน 3 วัน ทั้งนี้ ประชาชนผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐจะไม่สามารถลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการได้
ซึ่งในเวลาต่อมา กระทรวงมหาดไทย ได้ดำเนินการประชุมเร่งรัดการจัดส่งแผนของจังหวัดและกลุ่มจังหวัด และเตรียมความพร้อมในการพิจารณากันกรองแผนและโครงการประจำปีงบประมาณพ.ศ. 2570 ผ่านระบบวีทัศน์ทางไกล VCS ตามมติคณะกรรมการนโยบายการบริหารงานเชิงพื้นที่แบบบูรณาการครั้งที่สาม 2568 เพื่อให้การบริหารราชการเป็นไปด้วยความเรียบร้อยและเกิดประโยชน์สูงสุด

รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ลงพื้นที่พบปะเกษตรกรผู้เลี้ยงหอยทะเล อ่าวบ้านดอน 7 อำเภอ ยืนยัน ออกประกาศหลักเกณฑ์การปลูกสร้างสิ่งล่วงล้ำลำน้ำ อย่างช้า สิ้นเดือนพฤศจิกายน 2568

วันที่ 10 ตุลาคม 2568 เวลา 13.00 น.
นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ลงพื้นที่พบปะพี่น้องเกษตรกร ผู้เพาะเลี้ยงหอยทะเลในพื้นที่อ่าวบ้านดอน ครอบคลุม 7 อำเภอได้แก่ อำเภอเมืองสุราษฎร์ธานี พุนพิน ท่าฉาง ไชยา กาญจนดิษฐ์ ดอนสัก และอำเภอเกาะสมุย ที่ศาลาอเนกประสงค์วัดประสิทธาราม ตำบลบางชนะ อำเภอเมืองสุราษฎร์ธานี
โดยมีนายธีรุตม์ ศุภวิบูลย์ผล ผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานี ให้การต้อนรับ พร้อมด้วย นายกริชเพชร ชัยช่วย อธิบดีกรมเจ้าท่า นายภูริพัฒน์ ธีระกุลพิศุทธิ์ ผู้ตรวจราชการกระทรวงคมนาคม นางโสภา กาญจนะ นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดสุราษฎร์ธานี รองผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานี นายอำเภอ หัวหน้าส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง ตลอดจน เกษตรกรผู้เพาะเลี้ยงหอยทะเล และประชาชนในพื้นที่ ได้มารอต้อนรับเป็นจำนวนมาก
นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ กล่าวว่า ตนเองได้รับมอบหมายจากนายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี ให้ลงพื้นที่ มาติดตามการแก้ไขปัญหาอุปสรรคในการเลี้ยงหอยทะเล ซึ่งเป็นสัตว์เศรษฐกิจที่สำคัญของพื้นที่ และจากการหารือกับผู้ว่าราชการจังหวัด และอธิบดีกรมเจ้าท่า ทำให้ทราบว่า กรมเจ้าท่าสามารถออกประกาศกำหนดวิธีการอนุญาตอาคารเฝ้าเพาะเลี้ยงหอยทะเล เพื่อให้อำนาจกับคณะกรรมการระดับจังหวัดพิจารณาอนุญาตการปลูกสร้างสิ่งล่วงล้ำลำน้ำ เพื่อการเพาะเลี้ยงหอย โดยมีหลักเกณฑ์เบื้องต้น เรื่องขนาดพื้นที่ต้องไม่เกิน 5 X 5 เมตร ในพื้นที่แปลงที่ได้รับอนุญาตให้เพาะเลี้ยงหอยทะเลแล้ว ซึ่งคาดว่าจะออกประกาศกรมเจ้าท่าในเรื่องนี้ได้ ก่อน 30 พฤศจิกายนนี้
ด้าน ผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานี กล่าวว่า พื้นที่ที่มีการอนุญาตเพาะเลี้ยงหอยทะเลในอ่าวบ้านดอน มีเนื้อที่กว่า 82,400 ไร่ ออกใบอนุญาตแล้ว1,701 แปลง เนื้อที่ กว่า 46,460 ไร่ ให้กับเกษตรกร 1,701 ราย แต่ปัจจุบันยังคงมีปัญหาอุปสรรคที่ไม่สามารถปลูกสร้างที่พักเพื่อเพาะเลี้ยงและเฝ้าคอกหอยได้ จึงได้นำเสนอปัญหาดังกล่าวไปยังรัฐบาลเพื่อให้มีการแก้ไขปัญหาให้กับเกษตรกร
จากนั้น ได้เปิดโอกาสให้ตัวแทนเกษตรกร นำเสนอถึงปัญหาอุปสรรคของการเพาะเลี้ยงหอยทะเล ความจำเป็นที่ต้องมีขนำเพื่อดูแลและเฝ้าผลผลิต
จากนั้น รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมและคณะ ได้นั่งเรือเพื่อลงพื้นที่อ่าวบ้านดอน ซึ่งเป็นพื้นที่เพาะเลี้ยงหอยทะเล และยังคงหลงเหลือโครงสร้างของขนำเฝ้าคอกหอยที่ไม่ได้รับอนุญาต และถูกรื้อถอนในช่วงปี 2560 - 2563 ก่อนจะมีการยื่นเรื่องต่อศาลปกครอง และจังหวัดสุราษฎร์ธานี ได้นำเสนอปัญหาดังกล่าวต่อรัฐบาล นำมาสู่การแก้ไขในครั้งนี้
Copyright © 2021  www.suratthani.go.th

AChecker accessibility checker compliance: WCAG 2.0 (Level AAA) Valid CSS!