วันที่ 16 ธันวาคม 2567

นายนันธวัช เจริญวรรณ รองผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานี พร้อมด้วย นายพูลศักดิ์ โสภณปทุมรักษ์ นายอำเภอกาญจนดิษฐ์ สมาชิกเหล่ากาชาดจังหวัดสุราษฎร์ธานี ร่วมปรุงอาหารและบรรจุกล่อง เพื่อนำไปแจกจ่ายให้กับผู้ประสบอุทกภัยในพื้นที่อำเภอกาญจนดิษฐ์ ซึ่งขณะนี้มีหลายตำบลมีน้ำท่วมสูง ประชาชนดำรงชีวิตด้วยความยากลำบาก ไม่สามารถปรุงอาหารเองได้

นายอำเภอกาญจนดิษฐ์ เปิดเผยว่า โรงครัวดังกล่าวปรุงอาหารไม่น้อยกว่ามื้อละ 500 กล่อง โดยมีผู้น้ำท้องที่ท้องถิ่นมารับไปแจกจ่ายให้กับผู้ประสบภัยในหมู่บ้าน ซึ่งได้รับการสนับสนุนงบประมาณจัดซื้อวัตถุดิบจากสำนักงานเหล่ากาชาดจังหวัดสุราษฎร์ธานี และใช้กำลังคนทั้งเหล่ากาชาด จิตอาสา และกลุ่มแม่บ้าน มาช่วยกันปรุงอาหารและบรรจุกล่อง ซึ่งเป็นอาหารที่ชาวมุสลิมรับประทานได้

อย่างไรก็ตาม นายอำเภอกาญจนดิษฐ์ ระบุว่า อำเภอกาญจนดิษฐ์พร้อมรับบริจาควัตถุดิบ ทั้งอาหารสด และข้าวสาร เพื่อผลิตอาหารกล่องให้เพียงพอต่อความต้องการ ของผู้ประสบภัย นอกจากนี้ ในแต่ละตำบลยังได้มีการเปิดโรงครัวของแต่ละพื้นที่ ทั้งนี้ ศูนย์จิตอาสาพระราชทานจังหวัดสุราษฎร์ธานี เตรียมจัดตั้งโรงครัวพระราชทาน ตั้งแต่วันที่ 17 - 18 ธันวาคม 2567 ที่อำเภอกาญจนดิษฐ์ โดยมี มณฑลทหารบกที่ 45 สนับสนุนรถประกอบอาหารและกำลังพล

วันที่ 16 ธ.ค. 67 เวลา 10.00 น.

นายธีรุตม์ ศุภวิบูลย์ผล รองผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานีรักษาราชการแทนผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานี พร้อมด้วยหัวหน้าส่วนราชการ หน่วยงานรัฐวิสาหกิจ และภาคเอกชน ร่วมให้การต้อนรับนายศศิวัฒน์ ว่องสินสวัสดิ์ เอกอัครราชทูต สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงมอสโก สหพันธรัฐรัสเซีย และคณะ ในโอกาสเดินทางเข้าเยี่ยมคารวะผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานี เพื่อสานความสัมพันธ์อันดีระหว่างกัน

นายศศิวัฒน์ ว่องสินสวัสดิ์ เอกอัครราชทูต สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงมอสโก สหพันธรัฐรัสเซีย กล่าวว่า การได้เดินทางมา เยี่ยมชมและพบปะหน่วยงานราชการที่เกี่ยวข้องของจังหวัดสุราษฎร์ธานีในครั้งนี้ ถือเป็นจุดเริ่มต้นของการความสัมพันธ์ระหว่างประเทศไทยกับกรุงมอสโก สหพันธรัฐรัสเซีย สำหรับการเดินทางมาครั้งนี้ ก็เพื่อพบปะกับนักธุรกิจ ผู้ประกอบการ และหน่วยงานราชการต่างๆที่เกี่ยวข้องเพื่อแลกเปลี่ยนความคิดเห็นด้านต่างๆเนื่องจากจังหวัดสุราษฎร์ธานี มีนักท่องเที่ยวจากสหพันธรัฐรัสเซียเป็นจำนวนมาก ซึ่งส่งผลให้เศรษฐกิจและความสัมพันธ์ระหว่างประเทศมีแนวโน้มไปในทางที่ดี และอยากเน้นย้ำตามสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆให้ความสนใจในการเรียนรู้ภาษารัสเซีย เพื่อจะนำไปใช้ในการประกอบอาชีพในด้านการท่องเที่ยวได้ดีมากขึ้นรวมถึงสนใจที่จะนำเข้าสินค้าประเภทอื่นๆ จากไทยมากขึ้น โดยเฉพาะสินค้าเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์อาหารทะเล และการเกษตร และขอชื่นชม จังหวัดสุราษฎร์ธานี ที่สามารถดึงศักยภาพของจังหวัดให้เกิดประโยชน์สูงสุดทั้งด้านอุตสาหกรรม เกษตรกรรม และการท่องเที่ยว ซึ่งสิ่งที่เราเห็นในวันนี้ จะได้นำไปเพื่อปรับใช้กับประเทศของเราและหวังเป็นอย่างยิ่งว่าประเทศไทยและสหพันธรัฐรัสเซีย จะสามารถเป็นคู่ค้าที่มีความสัมพันธ์อันดีกันในอนาคต.